ร้อยตรี จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยตามที่มีประชาชนโพสต์ทางสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 66 ว่า นำกระป๋องไปเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ปริมาณ 5 ลิตร ราคา 192.50 บาท ที่สถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนครปฐม แต่ได้น้ำมันไม่ถึง 5 ลิตร ขาดไปเกือบครึ่งลิตรนั้น ล่าสุดกรมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ส่งนายตรวจชั่งตวงวัด สำนักงานสาขาชั่งตวงวัดเขต 0-3 นครปฐม และสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดเขต 0-2 ราชบุรี ตรวจสอบมาตรวัดสถานีบริการดังกล่าวทันที

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบมาตรวัดหัวจ่ายทั้งหมด 16 เครื่อง โดยใช้ถังตวงขนาด 5 ลิตร และ 20 ลิตร พบว่าแสดงค่าถูกต้องทุกเครื่อง โดยกรณีที่มีค่าการคลาดเคลื่อนก็ต้องไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด เช่น น้ำมัน 5 ลิตร คลาดเคลื่อนได้ไม่เกิน 50 มิลลิลิตร และทุกมาตรวัดหัวจ่ายที่สถานบริการแห่งนี้ มีเครื่องหมายคำรับรองถูกต้อง และจากการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทราบว่า ประชาชนที่โพสต์นั้น ได้กลับมาซื้อน้ำมันที่เดิมอีกครั้ง ปริมาณ 3 ลิตร และได้น้ำมันครบ 3 ลิตร

ร้อยตรี จักรา กล่าวว่า กรมฯ จะตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันอย่างเข้มงวดและต่อเนื่องต่อไป ร่วมกับผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันและผู้ค้าน้ำมันยี่ห้อต่างๆ และขอแนะนำประชาชนที่ไปใช้บริการสถานีบริการน้ำมัน ให้สังเกตมิเตอร์ที่ตู้เติมน้ำมัน ต้องเริ่มต้นที่เลขศูนย์ รวมทั้งสังเกตป้ายราคาน้ำมันที่หน้าปั๊มและที่ตู้เติมน้ำมันต้องตรงกัน และเมื่อเติมเสร็จ ควรตรวจสอบยอดขายและปริมาณน้ำมันที่เติมด้วย หากสงสัยว่าได้น้ำมันไม่เต็มลิตร สามารถแจ้งสถานีบริการน้ำมันขอให้ตรวจสอบโดยใช้ถังตวงมาตรฐานขนาด 5 ลิตร ซึ่งมีไว้ประจำทุกสถานีบริการได้

สำหรับสถานีบริการทุกแห่ง ก็ขอให้ปฏิบัติให้ถูกต้อง โดยต้องตรวจสอบความถูกต้องเที่ยงตรงของมาตรวัดเป็นประจำ กรณีสถานีบริการใดใช้มาตรวัดที่ไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีพบว่ามีการดัดแปลงมาตรวัด จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากประชาชน พบความผิดปกติหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการเติมน้ำมัน หรือจากการใช้เครื่องชั่งตวงวัดใดๆ ในการซื้อขายสินค้า สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ