วันที่ 7 ส.ค. ที่รัฐสภา นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. กล่าวถึงการโหวตนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมรัฐสภาในเร็วๆ นี้ ว่า ตนหนักใจแทนนายเศรฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ถูกเตรียมเสนอชื่อต่อรัฐสภา เพื่อให้โหวตเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 หลังจากที่ถูกตรวจสอบกรณีการเลี่ยงภาษีซื้อขายที่ดิน ทั้งจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ยื่นให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ตรวจสอบว่า เรื่องดังกล่าวมีประเด็นที่เกี่ยวกับจริยธรรมหรือไม่ ฉะนั้นตนก็เอาใจช่วยนายเศรษฐา และขอให้ชี้แจงรายละเอียดให้ชัดเจน เพราะหากชี้แจงไม่ชัดเจน นายเศรษฐาอาจไม่ได้รับเลือก

นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าการโหวตนายกฯ จะต้องได้นายกฯ คนที่ 30 แน่นอน แต่ตนขอเดาว่าคนที่เป็นนายกฯ จะไม่ได้มาจากพรรค พท. ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าประเด็นเรื่องเลี่ยงภาษีที่ดินของนายเศรษฐา จะขอให้โหวตเห็นชอบไปก่อนแล้วสอยทีหลังนั้น ตนมองว่าเรื่องนายกฯ และ​เรื่องบ้านเมืองไม่ใช่การทดลอง ประเทศไม่ใช่การเล่นขายของ ดังนั้นคนที่จะเป็นนายกฯ ต้องถูกตรวจสอบอย่างดีที่สุด ทั้งนี้ ตนมองว่าแม้จะมีคนดีไม่ 100% หรือคนชั่วไม่ 100% แต่คนที่เป็นนายกฯ ต้องใสสะอาดและมีจริยธรรม หากโหวตนายกฯ รอบ 3 ชื่อนายเศรษฐา ถูกเสนอต่อรัฐสภา ตนก็รู้สึกหนักใจแทน

เมื่อถามว่าหากพรรค พท. ไม่ได้นายกฯ มองว่าควรเปิดโอกาสพรรคลำดับถัดไปจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ต้องให้พรรคอันดับรองลงไป ส่วนแคนดิเดตนายกฯ ตอนนี้ที่ตนมองเห็น มี 2 คน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ส่วนนายกฯ คนนอกนั้นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 วรรคสองนั้น ตนมองว่าไปไม่ถึง

เมื่อถามว่าประเมินว่าสูตรจัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์ มีพรรค พท. เป็นแกนนำและพรรคอีกขั้วที่มี 188 เสียง โดยไม่มีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) จะเป็นไปได้หรือไม่ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า หากรวมเสียงได้ขนาดนั้น ถือว่าเสียงเกิน 300 เสียงขึ้นไปแล้ว แต่อาจจะอยู่ไม่ถึง 4 ปี เพราะมีประเด็นแก้รัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ดี การจัดตั้งรัฐบาลผสมสูตรใดก็ตามที่เป็นข่าว สว. ไม่ขอก้าวก่าย ส่วนทิศทางการโหวตนายกฯ รอบต่อไปนั้น ตนเชื่อว่า สว. ส่วนใหญ่จะออกเสียงว่าเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ มากกว่าการงดออกเสียง.