นานไม่นาน อารมณ์แบบ…หนึ่งนาทีของเราคงไม่เท่ากัน “บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นนายกฯ มาตั้งแต่ปี 57 ตอนนี้ปี 66 รอเข้าปี 67 ให้ สว. เฉพาะกาลที่มีอำนาจโหวตเลือกนายกฯ ได้หมดวาระ ก็คงได้เป็นนายกฯ ไป 10 ปี แล้วมีการวางหมากไว้ในรัฐธรรมนูญผ่านกลไก สว. อีก ให้อำนาจเลือกนายกฯ ได้ 2 รอบ ตั้งรัฐบาลมันถึงตลกอยู่อย่างนี้

มันชวนขำแบบตลกร้าย เพราะแต่ละพรรคก็ไม่เอากันเอง และบางพรรค ในพรรคก็เสียงแตกกันเองอีกล่ะ อย่างพรรคประชาธิปัตย์ที่ประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคชุดใหม่ ก็องค์ประชุมล่ม “ข่าวว่า” สส.กลุ่ม “เสี่ยต่อ เฉลิมชัย ศรีอ่อน” รักษาการเลขาธิการพรรค อยากร่วมรัฐบาลเพื่อไทย แต่มีฝั่งที่ไม่เห็นด้วย

พวกไม่เห็นด้วยก็พวกเลือดเก่าที่ยึดอุดมการณ์ประชาธิปัตย์ เช่นที่ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคบอกว่า “เราจะไปตอบมวลชนได้อย่างไรว่า เราต่อต้านระบอบทักษิณ” และก็มีเสียงสนับสนุนว่า เป็นฝ่ายค้านอย่างสง่าเพื่อรีแบรนด์พรรคดีกว่า ตรงนี้ก็ไม่ทราบว่า ทำให้นายเฉลิมชัยควันออกหู ออกมาโพสต์ต่อว่า “คนรุ่นเก่า” ในพรรคหรือไม่

ขณะที่ทางพรรคเพื่อไทย นางฐิติมา ฉายแสง สส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย ก็ออกมาพูดทำนองว่า มวลชนของเพื่อไทยก็ไม่เห็นด้วยที่พรรคจะไปจับมือกับพรรคสองลุง คือ พลังประชารัฐ (พปชร.) และรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เพราะเหมือนเป็นการสืบทอดอำนาจเผด็จการ แต่ถ้าไม่จับสองพรรคนั้น ก็กลายเป็นรัฐบาลเสียงปริ่ม

ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวว่า มี “บางคน” ในพรรค พปชร. จะเปิดดีลคือเอา สส. ไปออกเสียงให้ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทยจำนวนหนึ่ง แต่ข่าวก็ว่า “บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรค พปชร. ไม่เอาสูตรพรรคอกแตก ถ้าจะไปก็ต้องไปกันทั้งหมด ทาง พปชร. จึงยังสงวนท่าทีจะพูดเรื่องการร่วมรัฐบาลอยู่

เรื่องจะกลายเป็นพรรคอกแตก ไม่ใช่เกิดแค่กับ พปชร. ประชาธิปัตย์ รทสช. ก็จะเอาด้วย ตามที่มีข่าว สส. บางกลุ่มเห็นว่า เมื่อบิ๊กตู่ประกาศวางมือแล้ว ก็อยากออกจากพรรคไปร่วมรัฐบาล พรรคขนาดกลางขั้วอำนาจเก่าระส่ำกันใหญ่ มีแต่พรรคภูมิใจไทยที่นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคเท่านั้นที่นิ่งๆ เพราะตัวเลข สส. ต่อรองได้อย่างมีนัยสำคัญ

ขณะเดียวกัน การโหวตนายกฯ ก็ถูกเลื่อนออกไป เพื่อรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ซ้ำอีกได้หรือไม่ ซึ่งน่าจะต้องรอหลัง 16 ส.ค. ก่อนประธานรัฐสภานัดอีกครั้ง แล้วก็มีคนเคลื่อนไหวเรื่องคุณสมบัติและจริยธรรมของ นายเศรษฐา ทวีสิน เรื่องซื้อขายที่ดิน

ทางบริษัทแสนสิริได้ชี้แจงแทนไปแล้วว่า นายเศรษฐาไม่เกี่ยวข้อง แต่ทีนี้จะกลายเป็นเงื่อนไขให้ สว. อ้างได้ว่า “นายเศรษฐาไม่มีความสง่างาม” เพื่อไทยไม่รวมก้าวไกล ไม่เอาสองลุง ไม่เอาประชาธิปัตย์ มีโอกาสโหวตแพ้มาก และก็จะตกไปเป็นพรรคอันดับสามจัดตั้งรัฐบาล คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯ หรืออาจส้มหล่นไป พล.อ.ประวิตร ก็ได้

ความวุ่นวายไม่จบ เพราะรัฐธรรมนูญและ สว. เป็นตัวแปร แถมแต่ละพรรคก็ประกาศไม่เอากันเอง เช่นหลายพรรคไม่เอาก้าวไกล พอจัดตั้งรัฐบาลถ้า 1.เสียงปริ่ม 2. ค้านสายตาประชาชนมาก ก็มีโอกาสเกิดการชุมนุมให้วุ่นวายอีก บางทีเพื่อไทยอาจต้องทบทวนเรื่องการรวมเสียงกับก้าวไกล แล้วช่วยกันหาเสียง สว. จะได้จบๆ

ให้ตลกหลุดโลกกันไปเลย ก็ยักแย่ยักยันอยู่อีกสิบเดือน ให้ สว. ชุดนี้พ้นๆ ไปก่อน แต่กลัวพวกอ้างรักษาการอีก.