เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาที่อาคารรัฐสภาเป็นครั้งแรก หลังหายไปนาน 2 สัปดาห์ โดยบอกว่า มาให้กำลังใจเพื่อน สส. ในพรรค เนื่องจากวันนี้ มีรายงานเข้าที่ประชุมสภาหลายเรื่อง เช่น เรื่อง อสม. ที่ สส.ก้าวไกล อยากจะอภิปรายจำนวนมาก หากอยู่ที่อื่น การจะให้กำลังใจมันต้องใช้ไวไฟเข้ามา แต่มาอยู่ที่นี่ ใช้แค่บลูทูธก็ถึง และเมื่อมาถึงสภา จึงได้มาโรงอาหาร เพราะอยากกินไอศกรีมร้านโปรด รวมถึงน้ำมะพร้าวปั่น

เมื่อถามถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย ไปพูดคุยกับพรรคก้าวไกล เพื่อขอเสียงสนับสนุนในการโหวตเลือกนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ขณะนี้ยังรักและให้อภัยพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ก็รับฟังกัน อย่างที่ได้พูดกับสื่อสั้นๆ ไปแล้วว่า เป็นการสื่อสารและรับฟังกันทั้ง 2 ฝ่าย ยังไม่มีอะไรคืบหน้ามากไปกว่านั้น ถ้าฝั่งเพื่อไทยหรือก้าวไกลมีคำถาม ก็จะนัดเจอกันเรื่อยๆ

ส่วนจะมีโอกาสที่พรรคก้าวไกลโหวตนายกฯ ให้กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่า ยังรับฟังกันก่อน คงต้องรอดู further question (คำถามเพิ่มเติม) พรรคก้าวไกล ก็อาจจะสอบถามกลับไป แต่ถ้าเป็นสาระสำคัญจริงๆ ก็ต้องรับฟังกัน และคิดให้รอบคอบ

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยอยากให้มีการตั้งรัฐบาลแบบสลายขั้ว แล้วโหวตนายกฯ เพื่อปิดสวิตช์ สว. มองเรื่องนี้อย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ก็ยังรับฟัง และตั้งใจฟัง หากฟังแล้วมีคำถามต่อ ก็จะถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กลับไปว่าหมายความว่าอย่างไร ซึ่งตนคิดว่าในสัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์ที่ต้องฟังมากกว่าอย่างอื่น และต้องดูว่าสถานการณ์จะทำอะไรให้มันคลี่คลายไปได้บ้าง ตนมองว่ามีปัจจัยที่ต้องคิดรอบคอบหลายเรื่อง โดยยึดหลักการเป็นสำคัญ และยึดในสิ่งที่เราเคยสัญญาไว้ตอนหาเสียง ซึ่งจะอธิบายได้ว่า มีหลักประกอบการพิจารณาอย่างไรบ้าง และต้องฟังประชาชน

เมื่อถามถึงเสียงของประชาชนในโซเชียลที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความเห็น ไม่ต้องการจะโหวตให้พรรคเพื่อไทย นายพิธา กล่าวว่า ไม่ใช่แค่ในโซเชียล แต่ตนได้ย้ำให้ สส. ลงพื้นที่ด้วย อยากฟังเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง เพราะด้วยความที่เป็นผู้แทนราษฎร ก็หมายความว่าคนที่มีอำนาจจริงๆ คือ ราษฎร สส. จึงต้องลงพื้นที่ถามประชาชนว่าคิดเห็นอย่างไร เวลาตัดสินใจอะไรยากๆ เราตัดสินใจเองก็ยากอยู่ แต่ถ้าคิดไม่ออก ก็ต้องกลับไปหาประชาชน ประชาชนพูดว่าอย่างไร ก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีน้ำหนักประกอบการจัดสอนใจ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้อยู่ในกระบวนการตัดสินใจให้รอบคอบ เพื่อมาวินิจฉัยและพิจารณา เมื่อถามว่าจะถึงขั้นฟรีโหวตหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลาคิด

เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่ หากไม่มีรัฐบาล จะไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ได้ นายพิธา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหนึ่งในประเด็นที่ต้องรับฟังและพิจารณา เพราะในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มีความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญจำนวนมาก แต่ละคนโหวตอะไรไว้ก็เห็นอยู่ ถ้าเราเอาองค์ประกอบของคนที่เคยขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาบอกว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มันก็มีความขัดแย้งกันอยู่ จึงเป็นหนึ่งในประเด็นที่ต้องซักถามพูดคุยกันเพื่อหาความชัดเจน

เมื่อถามว่า ตอนนี้น้ำหนักการโหวตเลือกนายกฯ ของพรรคก้าวไกล ไปทิศทางไหน นายพิธา กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเรื่องของการรับฟังอย่างเดียว ต้องฟังและคิดอย่างรอบคอบ ตนคิดว่าตอนนี้ยังมีเวลา ทำไมต้องรีบขนาดนั้น

ส่วนความคืบหน้าคดีการถือครองหุ้นสื่อไอทีวีนั้น นายพิธา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครติดต่ออะไรมา ยังไม่มีโอกาสได้ชี้แจง ทั้งการส่งหนังสือ ซึ่งก็ยังรออยู่

เมื่อถามถึงความคืบหน้าคดียุบพรรค ที่มีการเสนอแก้ไขมาตรา 112 นั้น นายพิธา กล่าวว่า ขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้ขยายเวลาในการชี้แจง จึงให้ฝ่ายกฎหมายที่รับผิดชอบ คือ นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ดูคำร้องของผู้กล่าวอ้างว่ามีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน เพราะคิดว่าจะสามารถคัดค้านได้

ทั้งนี้ นายพิธา ได้ซื้อไอศกรีมกะทิใส่ท็อปปิ้งเป็นลอดช่อง ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า ที่สั่งลอดช่องไม่ใช่เพราะอยากหาช่องทางอะไร แต่ชอบรับประทานมาตั้งแต่เด็กแล้ว.