กรณีญาติโยมถึงกับแตกตื่น “พระ-เณร” อุ้มบาตร พัดลม สิ่งของเครื่องใช้ เดินบนถนน 304 พื้นที่ ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา กลางดึก อ้างถูกเจ้าอาวาส สำนักสงฆ์แสงธรรมคีรี หมู่ 1 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม ไล่ออกจากวัด หลังร้องเรียนพฤติกรรมเจ้าอาวาส หอบเงินกฐิน 3 แสนบาท หายไปครึ่งปีแล้วเพิ่งกลับมา กระทั่งมีการเจรจาจนจบปัญหาได้ด้วยดี ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
ยุติปัญหา! ปมพระ-เณรถูกไล่พ้นวัด พระชั้นผู้ใหญ่ จับเซ็นชื่อ-เจ้าอาวาสยอมย้าย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวกับ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นสมควรหรือไม่ โดย พระพยอม กล่าวว่า โดยทั่วไปเจ้าคณะปกครอง ต้องสอบสวนว่าเจ้าอาวาสที่หนีไปหอบเงินไปจริงหรือไม่ หากนำไปจริง พระลูกวัดก็มีสิทธิที่จะร้องเรียน ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบให้ชัดเจนเสียก่อน และการที่เจ้าอาวาสวัดไล่พระลูกวัดออกจากวัดกลางดึกเลยนั้นไม่สมควร
พระพยอม กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่เจ้าอาวาสวัดหายไปไหนมาตั้งหลายเดือน ดูเป็นเรื่องน่าสงสัยในฐานะคนทั่วไป แต่ในเคสนี้จะไม่สงสัยความบริสุทธิ์ของคณะปกครองและเจ้าอาวาสคงจะห้ามใจยาก ตอนนี้มีเพียงแค่ใครจะตั้งคณะกรรมการเข้าไปสอบสวนให้แน่ชัดอีกครั้ง ถ้าหากพระเณรในวัดไม่ผิด แล้วเจ้าอาวาสไล่ออก ยิ่งเป็นช่วงกลางพรรษา ดูจะไม่มีการอะลุ้มอล่วย ผู้ใหญ่ต้องสงสารผู้น้อย เป็นธรรมเนียมทางธรรมวินัย หากมีเมตตายืดหยุ่นหน่อย ควรรอให้ออกพรรษาเสียก่อน
เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่พระลูกวัดไปร้องเรียนว่าเงินผ้าป่าหายไปพร้อมกับเจ้าอาวาสวัดนานหลายเดือนนั้น กรณีนี้เป็นเพียงข้อกล่าวหา หากไม่ได้ทำก็โต้แย้งกลับมาได้ ยังไงก็ต้องสอบสวนอีกครั้งพร้อมกับชี้แจงให้ชาวบ้านทราบโดยทั่วกัน เพราะญาติพี่น้องของพระลูกวัดรวมถึงเด็กวัดเขาก็มี และต้องมีออกมาทักท้วงกันบ้าง เพราะมันผิดธรรมเนียม อยากฝากถึงเจ้าอาวาสโดยปกติทั่วไปทางเจ้าคณะต้องมีการตรวจสอบ ว่าข้อมูลที่ได้รับจากพระลูกวัดจริงเท็จหรือไม่ หากตรวจสอบแล้วพบว่าพระลูกวัดใส่ร้ายเจ้าอาวาส ก็ดำเนินตามขั้นตอนธรรมวินัยกันต่อไป
