เมื่อวันที่ 14 ส.ค. พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พร้อมกำลังชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นำตัว นายนันทจักษ์ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาขโมยทารกในโรงพยาบาลบางเลน ไปค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมในห้องนอนที่บ้านพัก เนื่องจากสงสัยว่า จะมีความเชื่อมโยงกับการหายตัวของน้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือนหรือไม่ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบรูปและคลิปของน้องต่อ และของใช้ต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา โดยใช้เวลากว่า 2 ชม. ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถกลับไปสอบสวนต่อที่ สภ.บางเลน โดยเก็บหลักฐานไป 2 ถุง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยว่าเป็นอะไรบ้าง

นายนันทจักษ์ ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า เรื่องของน้องต่อ ตนไม่เกี่ยวข้องด้วย ที่มีรูปในมือถือเพราะตนเป็นคนรักเด็ก เมื่อเห็นอะไรก็จะถ่ายเก็บไว้ ส่วนเรื่องเงินที่มีการโอนเข้าบัญชีเป็นเงินจากกองทุน ซึ่งมาจากธนาคารให้ตนกดเข้าลิงก์ และก็จะมีเงินโอนเข้ามา แต่ตนทำไม่เป็น จึงไม่ได้มีเงินเข้าบัญชี และอยากขอโทษครอบครัวของทารกที่ทำไปโดยไม่ตั้งใจ แต่ตนเอามา ก็เลี้ยงดูอย่างดี ส่วนที่ร่างกายทารกมีการบาดเจ็บ น่าจะเป็นช่วงที่เอาขึ้นรถจักรยานยนต์มา ส่วนกระเป๋าที่ถือไปครั้งแรก ตั้งใจจะซื้อของร้านสะดวกซื้อ ระหว่างทางก็แวะเข้าไปที่โรงพยาบาล ส่วนเรื่องเด็กที่เอามา ไม่ได้ตั้งใจ สุ่มเข้าไปดู เข้าใจว่าเป็นลูกของแฟน ตนจึงได้เอากลับมาเลี้ยง

ด้านแม่ของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า วันที่ลูกชายเอาเด็กมา เดินเข้าทางข้างบ้าน ซึ่งตนก็ไม่รู้เรื่อง จนหลานที่อยู่ในกรุงเทพฯ โทรฯ มาสอบถาม เพราะเห็นข่าวในเฟซบุ๊ก ว่ามีคนขโมยเด็กจากโรงพยาบาล และผู้ต้องสงสัยคล้ายกับน้านันท์ ตนจึงได้ไปเคาะประตูห้องถาม ลูกชายก็เปิดประตูออกมา และก็บอกว่าเอาเด็กมาจริง พร้อมกับเอาเด็กมาส่งให้แม่ ผ้าอ้อมเปื้อนอุจจาระเต็ม ให้แม่เอาไปคืนด้วย ตนกำลังจะเอาไปคืน ตำรวจก็มาที่บ้านและก็เอาเด็กไปส่งที่โรงพยาบาล ที่ลูกชายทำไปน่าจะเพราะความเครียดเรื่องอดีตแฟน แต่ก็เลิกกันไปกว่า 10 ปีแล้ว และที่ไปเอาเด็กมา ลูกชายก็บอกตำรวจว่า ตนเสพยามาและดื่มเบียร์ก่อนไปก่อเหตุ

ทั้งนี้ มีข้อมูลจากแหล่งข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพบสมุดบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา 7 เล่ม และมีเงินโอนเข้าบัญชี ในช่วงที่น้องต่อหายไปด้วย ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า จะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของน้องต่อหรือไม่.