เมื่อวันที่ 1 พ.ย. พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ สุวพิชญ์ภูมิ ผกก.สภ.เหนือคลอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.กระบี่ เข้าตรวจสอบความเสียหายรถแท็กซี่ ป้ายเหลือง ทะเบียน ทข 25 กระบี่ หลังจากยึดคืนมาจาก Mr.Oystein Moholt นักท่องเที่ยวชายชาวนอร์เวย์ ที่บุกชิงแท็กซี่ไปจากนายสุเทพ คชาผล อายุ 53 ปี คนขับ เหตุเกิดภายในสนามบินกระบี่ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา เบื้องต้นพบความเสียหายบริเวณด้านข้างซ้ายของตัวรถ มีรอยถลอกทั้งแถบ และมีสิ้นส่วนบางอย่างแตกหัก คาดเกิดจากเฉี่ยวชน

โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สกัดจับได้ที่ร้านขายของชำริมทาง บ้านเขากอบ ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ขณะเข้าไปขอซื้อน้ำอัดลมในร้านค้าแห่งหนึ่ง ต่อมาได้นำตัวผู้ต้องหากลับมาสอบสวนที่ สภ.เหนือคลอง จ.กระบี่ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาวิ่งราวทรัพย์ โดยมีญาติของนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวเดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจ พร้อมกล่าวว่า ยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด

พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากช่วงบ่ายของวานนี้ ได้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เดินทางเข้าไปสนามบินกระบี่ เพื่อจะเดินทางต่อไปยังกรุงเทพฯ แต่เนื่องจากชาวต่างชาติรายดังกล่าวไม่มีตั๋วเดินทาง จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางไปยังกรุงเทพฯ ตามความประสงค์ได้ เมื่อถึงเวลาปิดเคาน์เตอร์สายการบิน ชาวต่างชาติคนดังกล่าว จึงได้ไปยืนบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ กันไม่ให้พนักงานของสายการบินฯ จำนวน 2 คน ออกจากเคาน์เตอร์

พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ เปิดเผยต่อว่า เจ้าหน้าที่ รปภ.สนามบิน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ดูแลความปลอดภัย จึงได้ช่วยกันเกลี้ยกล่อมชาวต่างชาติรายดังกล่าว จนกระทั่งชาวต่างชาติได้ยินยอมและเดินออกจากตัวอาคาร เมื่อเดินไปถึงบริเวณลานด้านหน้านอกตัวอาคาร ชาวต่างชาติรายดังกล่าว ได้เรียกรถแท็กซี่คันดังกล่าวออกไปจากท่าอากาศยานฯ ก่อนที่จะชิงรถหลบหนีและถูกจับได้ เบื้องต้นทราบว่านักท่องเที่ยวรายดังกล่าว คือ Mr.Oystein Moholt มีอาชีพเป็นวิศวกรรม ทำงานบริษัทโรงงานน้ำมันชื่อดังในต่างประเทศ และเดินทางมาเที่ยวที่ จ.กระบี่ เมื่อ 4-5 วันที่ผ่านมา คาดอาจจะมีปัญหาบางอย่าง จึงได้ลงมือก่อเหตุขึ้น

ด้านนายสุเทพ โชว์เฟอร์รถแท็กซี่คันดังกล่าว เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังไปรับลูกค้าที่สนามบิน เพื่อไปส่งโรงแรม ผู้ก่อเหตุวิ่งมาขึ้นรถของตนทางประตูหลัง บอกว่าจะไปลงสถานีขนส่งโดยสารตลาดเก่ากระบี่ เพื่อไปขึ้นรถบัสกลับกรุงเทพฯ แต่ตนบอกว่ารับไม่ได้ ตนมีลูกค้าแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมลงจากรถ และเมื่อลูกค้าของตนมา ตนจึงได้บอกให้นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวลง เพื่อให้ลูกค้าขึ้นรถ จากนั้นตนได้ลงไปเอากระเป๋าลูกค้ามาใส่รถ แต่ผู้ก่อเหตุได้แอบขึ้นไปที่นั่งคนขับและขับรถออกไปทันที แถมยังไปชนรถของคนอื่นอีกหลายคัน รู้สึกดีใจมากที่ตำรวจตามรถกลับคืนมาได้.