วันที่ 19 ส.ค. นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ให้ความรู้เกี่ยวกับ บทบาทและหน้าที่ ของสมาชิกวุฒิสภา วันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 ส.ค. 66

โดยระบุข้อความว่า “บันทึกจากนายกสมาคมทนายความฯ รัฐธรรมนูญมาตรา 272 ประกอบมาตรา 159 บัญญัติให้สมาชิกรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีจากบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 160 ซึ่งคุณสมบัติสำคัญปรากฏตามมาตรา 160 (4) คือมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมาตรา 160 (5) คือไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ดังนั้น การที่สมาชิกรัฐสภาบางท่านแสดงความคิดเห็นว่า ในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยจะพิจารณาประเด็นนโยบายเกี่ยวกับเงินดิจิทัลหรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยนั้น เห็นว่าเป็นการใช้อำนาจที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากรัฐธรรมนูญให้อำนาจพิจารณาเพียงคุณสมบัติของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อเท่านั้น รัฐธรรมนูญมิได้ให้อำนาจสมาชิกรัฐสภาพิจารณาหรือตรวจสอบนโยบายของพรรคการเมือง

สำหรับมาตรฐานทางจริยธรรมที่ถือเป็นเรื่องร้ายแรง ปรากฏอยู่ในหมวด 1 ของมาตรฐานทางจริยธรรมฯ พ.ศ. 2561 ข้อ 5-ข้อ 10 ซึ่งมีสาระสำคัญคือการยึดมั่นและธำรงไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ ยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อันเป็นการควบคุมการปฏิบัติหน้าที่เมื่อได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว

ส่วนประเด็นสุดท้าย คือ การมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์นั้น แม้รัฐธรรมนูญจะใช้คำว่า เป็นที่ประจักษ์อันมีความหมายว่า หากมีการกล่าวหาว่า ผู้ได้รับการเสนอชื่อไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตจะต้องมีพยานหลักฐานพิสูจน์ มิใช่เพียงการกล่าวหาลอยๆ แต่เนื่องจากเป็นประเด็นสำคัญที่สังคมกำลังวิพากษ์วิจารณ์ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย จึงเห็นว่า ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อดังกล่าว ควรเข้ามาแสดงวิสัยทัศน์ในรัฐสภา เพื่อขจัดความสงสัยของสังคมและเป็นโอกาสที่จะได้ชี้แจงตอบข้อซักถามด้วยตนเอง เพื่อลบล้างข้อครหาต่างๆ ให้สมาชิกรัฐสภา โดยเฉพาะกลุ่ม สว. ที่ตั้งข้อสังเกตในเรื่องดังกล่าว ได้เข้าใจโดยสิ้นสงสัย ซึ่งนอกจากจะเป็นการแสดงถึงความบริสุทธิ์แล้ว ยังเป็นการให้ความสำคัญกับการตรวจสอบด้วย

ขอบคุณข้อมูลและภาพ สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย