เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ สำนักงานทนายความคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.สุปราณี พรมจำปา อายุ 35 ปี พนักงานบริษัทเอกชน แม่น้องปาลิน วัย 3 เดือน 8 วัน นำหลักฐานเดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมให้ช่วยเหลือ หลังพาลูกสาวไปฝากเลี้ยงที่เนอร์สเซอรี่รับเลี้ยงเด็กแห่งหนึ่งใน กทม. ได้วันเดียว ลูกสาวสำลักนมเสียชีวิต

น.ส.สุปราณี เล่าทั้งน้ำตาว่า หลังจากคลอดน้องปาลินออกมา ตนเลี้ยงดูลูกสาวเพียงคนเดียวมาโดยตลอด กระทั่งน้องปาลินอายุได้ 3 เดือน 8 วัน ตนต้องไปทำงานเพื่อหาเงินดูแลครอบครัว จึงตัดสินใจพาน้องไปฝากเลี้ยงที่เนอร์สเซอรี่แห่งหนึ่ง ภายในซอยศรีนครินทร์ 40 ซึ่งอยู่ใกล้กับที่ทำงานขับรถไม่ถึง 10 นาที ตอนแรกที่เข้าไปดู ก็เห็นว่าที่เนอร์สเซอรี่ดังกล่าว อยู่ใต้อาคารคอนโดฯ มีเด็กๆ นำมาฝากเลี้ยงอยู่ประมาณ 5-6 คน และมีครูที่ดูแลรับเลี้ยงเด็ก 1 คน ชื่อครูแอม อายุประมาณ 40-45 ปี และเป็นเจ้าของเนอร์สเซอรี่ดังกล่าวด้วย

โดยคิดค่ารับฝากเลี้ยงน้องแรกเข้าเป็นเงิน 6,200 บาท กระทั่งเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 66 ตนได้พาน้องปาลิน ลูกสาววัย 3 เดือน ไปฝากเลี้ยงที่เนอร์สเซอรี่ดังกล่าวเป็นวันแรก ก่อนไปทำงานตามปกติ ทางครูก็แจ้งรายละเอียดมาทางแชตตลอดว่า น้องปาลินทำอะไรอยู่ ตลอดทั้งวัน จนเวลา 16.43 น. ทางครูแอมได้โทรศัพท์มาบอกตนว่า น้องปาลินมีอาการสำลักนมแล้วขาดอากาศหายใจ จนตัวเขียวคล้ำไปทั้งตัว จึงพาส่งไปรักษาที่คลินิก ด้วยความเป็นห่วงลูกสาว ตนจึงรีบเดินทางไปที่คลินิคใช้เวลาประมาณ 10 นาที เมื่อไปถึงเห็นหมอพยายามช่วยกันปั๊มหัวใจน้องอยู่ แต่อาการไม่ดีขึ้น ต้องรีบตัวนำส่ง รพ.สินแพทย์ ศรีนครินทร์ พอไปถึง คุณหมอแจ้งว่าน้องไม่ฟื้นแล้ว หัวใจหยุดเต้นก่อนมาถึง รพ. แต่พอเห็นสภาพศพของน้อง กลับพบว่ามีรอยเขียวช้ำที่ข้อเท้า จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.พระโขนงเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 66

จากการสอบถามครูแอมว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวตน ครูแอมบอกว่าหลังรับน้องมาเลี้ยง ก็ให้น้องกินนมตามปกติ พอน้องกินนมเสร็จแล้ว ก็อุ้มขึ้นมาพาดบ่าเพื่อให้น้องเรอ ก็เห็นว่าน้องนิ่งไป ตัวคล้ำเป็นสีม่วง จึงรีบผายปอด และพยายามช่วยปั๊มหัวใจ ก่อนพาไปรักษาที่คลินิกแต่ก็ไม่ทัน น้องเสียชีวิต โดยครูแอมบอกว่า น้องน่าจะสำลักนมจนหายใจไม่ออก

ตอนนี้ตนรอผลชันสูตรจาก รพ.ตำรวจ และยังไม่ทราบว่า คดีดำเนินการไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว เบื้องต้นโทรฯ สอบถามทาง รพ.ตำรวจเจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้รอผลชันสูตร 45 วัน วันนี้จึงเดินทางมาหาทนายรณณรงค์ ให้เข้ามาช่วยเหลือทางด้านคดีความ เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะตอนนี้ครูแอมก็ยังไม่ได้ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด ยังใช้ชีวิตปกติ หลังเกิดเหตุยังส่งข้อความแชตมาบอกตนว่าเป็นคราวซวยของครู ได้เงินแค่ไม่กี่พัน ซึ่งตนรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกสาว อยากให้ทางครูแอมออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากอะไรกันแน่ และแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้ ไม่ใช่มาบอกว่าเป็นคราวซวย

ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ธรรมชาติของเด็กเล็ก ถ้าจะสำลักนมเสียชีวิต จะมีขวดนมป้อนในปากไว้ ในด้านของกฎหมายต้องดูว่าน้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ คือ ประมาทปล่อยปละละเลยให้เด็กสำลักนม และไม่สนใจดูแล หรือเป็นเหตุสุดวิสัย คือเด็กตายเอง หากเด็กเสียชีวิตจากความประมาท ต้องรอผลตรวจจากทางแพทย์ จะมีการแจ้งข้อหาต่อครูผู้ดูแลต่อไป ในข้อหาประมาททำให้เด็กถึงแก่ความตาย มีโทษสูงถึง 10 ปี และเนอร์สเซอรี่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย

นายรณณรงค์ กล่าวว่า แจ้งอีกอย่างหนึ่ง อายุเด็กประมาณ 3 เดือน เนอร์สเซอรี่ที่ถูกกฎหมายจะไม่รับดูแล ทาง พม. ต้องเข้ามาตรวจสอบว่าทำไมเนอร์สเซอรี่ถึงรับดูแล วันนี้จะให้ทางแม่แจ้งไปทาง พม. เพื่อขอตรวจสอบใบอนุญาตจากเนอร์สเซอรี่ ซึ่งทางแม่ยืนยันว่า จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และอยากฟังจากปากคุณครูว่า ลูกของผู้เสียหายเสียชีวิตจากอะไร