เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ภายหลัง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าสู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จากนั้นไม่นาน นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายสิทธิ สุชีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และ นพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผอ.ทัณฑสถานโรงพยาบาล ร่วมกันแถลงถึงขั้นตอนการรับตัวนายทักษิณ เข้าสู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อสื่อมวลชน

‘ทักษิณ’ ถึงเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯแล้ว เตรียมรอตรวจร่างกายเป็นผู้ต้องขังใหม่

นายอายุตม์ กล่าวว่า ได้มีการดำเนินการตามมาตรการนโยบายที่ผู้บังคับบัญชาได้มอบไว้ 3 ประการ ประกอบคือ 1.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จะดูแลเรื่องความปลอดภัยอดีตนายกฯ เป็นหลักไปก่อน เนื่องจากในเรือนจำมีผู้ต้องขังหลายคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเป็นอยู่ อาหาร น้ำดื่ม และการเยี่ยมต่างๆ 2. เนื่องจากอดีตนายกฯ มีครอบครัว เพื่อนและองค์กรต่างๆ ที่อาจจะมาเยี่ยมเป็นจำนวนมาก ทางเรือนจำจะจัดสถานที่ต่างๆ ให้เรียบร้อย และได้มอบนโยบายไว้แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ปกติแล้วจะมีการจัดเยี่ยมตามแดนต่างๆ เรื่องการเยี่ยมอาจอะลุ่มอล่วย เพราะมีเพื่อน และองค์กรอิสระต่างๆ มาพบปะกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เรือนจำจะต้องทำให้เรียบร้อย โดยขณะนี้ได้เตรียมห้องเยี่ยมไว้พร้อมแล้ว

นายอายุตม์ กล่าวอีกว่า 3.เนื่องจากนายทักษิณ เป็นผู้สูงอายุ 74 ปี ทางเรือนจำจะต้องดูเรื่องสุขภาพเป็นหลัก เพื่อไม่ให้เจ็บป่วยขึ้นมา หากเจ็บป่วยขึ้นมา ระหว่างอยู่ในเรือนจำจะมีปัญหามาก ซึ่งทั้ง 3 ประการที่กล่าวมา ทางกรมราชทัณฑ์ได้รับตัวอดีตนายกฯ เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ศาลมายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และได้ทำประวัติ ตรวจสุขภาพเรียบร้อย ตอนนี้อยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อย่างปลอดภัย

นายสิทธิ กล่าวว่า เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้รับตัวนายทักษิณ ชินวัตร เรียบร้อยแล้ว โดยดำเนินการตรามาตรการรับตัวคนเข้าใหม่ จัดทำทะเบียนประวัติ ตรวจสุขภาพจากแพทย์ ของทัณฑสถานโรงพยาบาล ซึ่งพบว่า นายทักษิณ เป็นกลุ่มเปราะบาง เนื่องจากอายุเกิน 60 ปี ปัจจุบันก็ 74 ปี เมื่อตรวจสอบประวัติการรักษาที่ผ่านมา ประกอบกับการตรวจของแพทย์เบื้องต้นพบว่ามีโรคประจำตัวต้องเฝ้าระวัง และรักษาอย่างต่อเนื่องต้องติดตามอาการจากแพทย์เฉพาะทาง เบื้องต้นได้แยกขังที่แดน 7 เป็นสถานพยาบาลของเรือนจำ และเพื่อความปลอดภัยจึงแยกขังไว้คนเดียว โดยมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง

นายนัสที กล่าวว่า การปฏิบัติรับตัวถูกต้องครบถ้วน มีการจำแนกดูแลตามลักษณะของผู้ต้องขัง ซึ่งกรณีที่ผู้ต้องขังเป็นกลุ่มเปราะบางก็ปฏิบัติตามระเบียบของเรือนจำ มีแดนดูแลรักษาความปลอดภัยคือจุดสถานพยาบาล จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ก็เป็นเหมือนกับผู้ต้องขังที่อยู่ข้างในทุกคนตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกินอาหาร หรือกิจวัตรตามระเบียบประจำวัน

ด้าน นพ.วัฒน์ชัย ระบุว่า นายทักษิณ มีประวัติโรคประจำตัว เป็นโรคหัวใจ โดยมีภาวะโรคหัวใจขาดเลือด ติดตามการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางอย่างใกล้ชิด รับประทานยาละลายลิ่มเลือดอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีปัญหาทางปอด มีประวัติเป็นปอดอักเสบรุนแรงจากภาวะโควิด แม้จะรักษาหายแล้ว แต่ยังพบภาวะผังผืดในปอด ทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย ซึ่งทั้งโรคหัวใจและโรคปอดจำเป็นต้องเฝ้าระวัง และได้รับการดูแลโดยบุคลากรการแพทย์ เพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลง

ขณะเดียวกันยังมีความดันโลหิตสูง อยู่ระหว่างการควบคุมและรักษาโดยการรับประทานยา ซึ่งตรวจวันนี้ (22 ส.ค.) ยังมีภาวะความดันโลหิตผิดปกติ รวมถึงภาวะกระดูกสันหลังเสื่อมในหลายระดับ กดทับเส้นประสาท ส่งผลให้มีอาการปวดเรื้อรัง การเดินและทรงตัวที่ผิดปกติ

ทั้งนี้ จากประวัติข้อมูลเบื้องต้นที่ได้รับและการตรวจร่างกายโดยทีมแพทย์ เห็นว่านายทักษิณเป็นกลุ่มเปราะบาง ซึ่งตามแนวทางปฏิบัติของเรือนจำทั่วประเทศ กลุ่มเปราะบางจำเป็นจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่เฝ้าระวังใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัย กรณีที่มีอาการเจ็บป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาไเทันท่วงทีเพื่อลดการสูญเสีย.