สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ว่าสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ให้การต้อนรับและพบการหารือกับนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรมว.การต่างประเทศจีน โดยประเด็นสำคัญของการหารือเกี่ยวข้องกับการยกระดับ และขยายขอบเขตความร่วมมือในทุกมิติ โดยมีการลงนามร่วมกันในบันทึกความเข้าใจ ( เอ็มโอยู ) หลายฉบับ มีมูลค่าการลงทุน 1,750 ล้านหยวน ( ราว 8,880.57 ล้านบาท ) ครอบคลุมการค้า การศึกษา ความมั่นคง และการสาธารณสุข ที่จีนเตรียมมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่กัมพูชาอีก 3 ล้านโด๊ส 
ทั้งนี้ รัฐบาลปักกิ่งคาดหวังการบรรลุข้อตกลงครั้งสุดท้าย เพื่อเป็นข้อสรุปสำหรับการเจรจาตามแนวทางปฏิบัติ ( ซีโอซี ) เรื่องทะเลจีนใต้ ร่วมกับสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) ภายในปีหน้า ซึ่งกัมพูชาทำหน้าที่ประธาน ด้านสมเด็จฮุน เซน กล่าวถึง "การยืนหยัดมอบความสนับสนุน" ต่อจีน ในประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อ "แกนกลางผลประโยชน์" ของรัฐบาลปักกิ่ง โดยเฉพาะ ไต้หวัน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์
สนามกีฬาแห่งชาติ “มรดกเตโช” ในกรุงพนมเปญ
ขณะเดียวกัน ผู้นำกัมพูชาแสดงความซาบซึ้งและขอบคุณการที่จีนเข้ามาช่วยพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานหลายด้าน โดยเฉพาะ โครงการก่อสร้างถนนหลายสายที่มีระยะทางยาวรวมกันมากกว่า 2,000 กิโลเมตร และสะพานข้ามอีก 7 แห่ง ข้ามแม่น้ำโขง โตนเลสาบ และแม่น้ำบาสัก อย่างไรก็ตาม สมเด็จฮุน เซน เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้พึ่งพิงแต่จีน แต่พร้อมเป็นพันธมิตรและร่วมมือกับทุกประเทศ
นายหวัง อี้ ( คนซ้าย ) และนายปรัก สุคน ถ่ายภาพคู่กันก่อนเริ่มการหารือ
อนึ่ง ก่อนการพบหารือกับสมเด็จฮุน เซน หวังประชุมร่วมกับนายปรัก สุคน รมว.การต่างประเทศของกัมพูชา และเมื่อได้พบกับผู้นำกัมพูชา ทั้งคู่ร่วมกันเป็นประธานในพิธีรับมอบ "มรดกเตโช" สนามกีฬาแห่งชาติแห่งใหม่ขอประเทศ ตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญ มีความจุมากกว่า 60,000 ที่นั่ง และงบประมาณก่อสร้างส่วนหนึ่งมาจากจีน โดยกัมพูชาเตรียมใช้สนามกีฬาแห่งนี้จัดพิธีเปิดและปิดการแข่งขันซีเกมส์ ในปี 2566.

เครดิตภาพ : AP