เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอารยา (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ลูกจ้างร้านวัสดุก่อสร้าง อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา ได้เดินทางมายัง สภ.ขามทะเลสอ ทำการชี้จุดเกิดเหตุ หลังถูกพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเรียกเงินค่าทำคดี 5 แสนบาท กรณีสามีประสบอุบัติเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ ถูกรถกระบะชนเสียชีวิต เมื่อเดือน ก.ย. 65 ต่อมาศาลตัดสินให้คนที่ขับรถกระบะ ต้องชดใช้เงินสินไหมให้ภรรยาผู้เสียชีวิตเป็นเงิน 1 ล้านบาท

แต่ขณะดำเนินการเรื่องคดีที่ สภ.ขามทะเลสอ พนักงานสอบสวนยศ พ.ต.ท. เรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำ 3-4 รอบ โดยพยายามเรียกค่าทำคดี 5 แสนบาทหลายต่อหลายครั้ง กระทั่งนางอารยา นำเรื่องไปปรึกษาทนายความคนหนึ่งให้มาช่วยเหลือ เมื่อทนายความช่วยเจรจากับพนักงานสอบสวน มีการต่อรองลดราคากัน จนสุดท้ายจบที่ 2 แสนบาทเป็นค่าทำคดี ส่วนทนายเรียกเงินอีก 1 แสนบาทบวกค่าน้ำมันอีก 5,000 บาท

กระทั่งวันที่ 25 ต.ค. 65 นางอารยา ได้รับเช็คจากธนาคาร ค่าสินไหม พนักงานสอบสวนคนดังกล่าว พร้อมทนาย ขับรถตามไปถึงธนาคารเพื่อเบิกเงินสด สุดท้ายมีการจ่ายเงินโดยใส่ซองกระดาษสีน้ำตาลให้ตำรวจ 200,000 บาท และเงินสดให้ทนาย 100,000 บาท

แม้ นางอารยา ภรรยาผู้เสียชีวิต พยายามยกมือไหว้ขอความเห็นใจจากตำรวจว่า อย่าเอาเงินก้อนนี้ไปเลย ขอให้ตนไปเอาเงินก้อนนี้ไปรักษาอาการป่วยเรื้อรัง และดูแลลูกอีก 2 คน เพราะต้องสูญเสียสามีอันเป็นเสาหลักของครอบครัวไปแล้ว แต่สุดท้ายตำรวจกลับไม่ยอม ยืนยันว่าจะต้องได้เงิน จึงต้องยอมให้เงินไป

มาถึงวันนี้ นางอารยา นำเรื่องราวมาเปิดเผยสู่สาธารณะ เพราะเห็นว่าตนเองไม่รู้กฎหมาย และไม่ได้รับความเป็นธรรม อยากได้เงินทั้งหมดคืน ทั้งจากตำรวจ 2 แสนบาท ซึ่งตอนนี้ถูกย้ายจาก สภ.ขามทะเลสอ ไปประจำอยู่ สภ.โนนไทย จ.นครราชสีมา และจากทนายความอีก 105,000 บาท ซึ่งทนายความอยู่ จ.หนองคาย เพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว และเพื่อเป็นอุทาหรณ์ไม่อยากให้ตำรวจและทนายความ กระทำการแบบนี้กับคนอื่นๆ อีก

ขณะที่ พล.ต.ต.อิทธิพล นาคคำ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา อยู่ระหว่างติดภารกิจ ยังไม่สะดวกที่จะให้รายละเอียด.