จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับแม่บ้านธนาคารออมสิน สาขากุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ในข้อหายักยอก ลักทรัพย์ ปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม กองทุนเงินล้านสมาชิก กทบ. เกิดความเสียหายเกือบ 30 ล้านบาท ซึ่งมีการแฉพฤติกรรมแม่บ้านธนาคารใช้เครื่องพิมพ์ดีดปรับสมุดบัญชีตบตาไม่นำเงินเข้าระบบ นั้น
เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ ธนาคารออมสิน สาขากุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ นายธนภัทร ณ ระนอง ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานชดใช้เงินคืน กรณีกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองได้รับความเสียหายจากการทุจริต โดยมีนายศรชัย จันโทวงษ์ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ภาค 11 นายอภิรักษ์ ภักดีสุวรรณ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เขตกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน ประธานและกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง สมาชิก กทบ. ร่วมงานเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยรอยยิ้ม และความชื่นมื่น
นายศรชัย กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดปัญหาแม่บ้านธนาคารออมสิน สาขากุฉินารายณ์ และเจ้าหน้าที่บางคน ทำการตกแต่งบัญชี ยักยอกเงินปิดงบดุลประจำปี 65 พร้อมดอกเบี้ย และเงินกู้ประจำปี 66 ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง หรือ กทบ. ตามที่ปรากฏในสื่อ ทั้งนี้ ในส่วนธนาคารออมสินและกองทุนต่างๆ ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.กุฉินารายณ์ โดยล่าสุดได้ยื่นคำร้องขออำนาจศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ออกหมายจับแม่บ้านคนดังกล่าว ข้อหายักยอก ลักทรัพย์ ปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม โดยประกาศสืบจับไว้แล้ว เนื่องจากหลบหนี ขณะที่ในส่วนของเจ้าหน้าที่พนักงานธนาคารออมสินที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 3 คน เบื้องต้นให้ออกนอกพื้นที่ไปแล้ว และเป็นในส่วนของการตรวจสอบภายใน และหน้าที่ของพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายศรชัย กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีดังกล่าว ทางธนาคารออมสิน กราบขอโทษพี่น้องประชาชน ลูกค้า สมาชิกเป็นอย่างมาก และไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เร่งรีบหามาตรการแก้ไขปัญหา และกำหนดชดใช้ในวันนี้ ซึ่งจะดำเนินการจ่ายให้กับ กทบ. ที่เอกสารการขอกู้เรียบร้อยชัดเจน ซึ่งสรุปวันนี้ชดใช้ให้กับ 28 กองทุน เป็นเงิน 13,220,000 บาท ขณะที่กองทุนอื่นๆ จะได้ชดใช้ต่อไป เมื่อเอกสารการขอกู้เรียบร้อยดี ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุก กทบ. ตลอดจนลูกค้าธนาคารออมสินทุกประเภท ซึ่งเป็นสถาบันการเงินของรัฐบาลที่อยู่เคียงข้าง และเป็นหลักประกันที่มั่นคงให้กับลูกค้ามายาวนาน
ด้านนายมะลิ โคตรสี ประธาน กทบ.บ้านโคกกลาง หมู่ 6 ต.จุมจัง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากที่ตนพร้อมด้วยคณะกรรมการและสมาชิก กทบ. ลูกค้าธนาคารออมสิน รู้สึกเคร่งเครียดมานาน เพราะเงินที่ปิดงบดุลประจำปี 2565 และเงินกู้ของสมาชิกปี 2566 ถูกแม่บ้านธนาคารออมสินยักยอกไป ทำให้สมาชิกได้รับความเดือดร้อน ไม่มีเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ และบางคนต้องไปหากู้ยืมเงินจากที่อื่นมาใช้จ่าย ทำให้เป็นภาระหนักที่ต้องแบกรับหนี้สินดอกเบี้ยสูงกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ กทบ.
นายมะลิ กล่าวอีกว่า เมื่อทางธนาคารออมสินชดใช้เงินกู้ครบถ้วน ตนพร้อมด้วยคณะกรรมการและสมาชิก กทบ. ทุกคนต่างดีใจ เหมือนชีวิตของทุกคน ทุกครัวเรือน เดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่น อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าลูกค้าธนาคารออมสิน และสมาชิก กทบ.ยังมีความรัก ความศรัทธา ในการให้บริการของธนาคารออมสินเช่นเดิม ไม่เปลี่ยนใจ ขอขอบคุณผู้บริหารธนาคารออมสิน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน ที่ให้บริการอย่างดียิ่ง และประทับใจตลอดมา เรื่องที่ผ่านไปก็ขอให้เป็นอุทาหรณ์ เพื่อให้ทางธนาคารออมสินมีมาตรการที่รัดกุม และไม่ให้เหตุการณ์เสียหายต่อภาพลักษณ์เกิดขึ้นอีก.
