เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ สน.สุทธิสาร นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง นำหญิงสาวอายุ 26 ปี อดีตวงไอดอลสาวสไตล์ญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นครีเอเตอร์ ทาง tiktok และ YouTube เล่าและแปลข่าวศิลปินจีน มีผู้ติดตาม 5 หมื่นคน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ชุติพนธ์ ตะกรุดทอง รอง ผกก.(สอบสวน) สน.สุทธิสาร ภายหลังถูกตั้งกล้องแอบถ่ายภายในห้องน้ำสตูดิโอแห่งหนึ่งย่านสุทธิสาร เหตุเกิดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้เสียหายแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ไว้แล้วเมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยมีนายณัฐพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชายหนุ่มช่างภาพอิสระ เข้ามามอบตัวคดีดังกล่าวด้วย

สาวไอดอล ผู้เสียหาย กล่าวว่า วันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา นัดคู่กรณี เป็นช่างภาพอิสระ และเคยเป็นช่างภาพให้วงไอดอลที่ตนเคยสังกัด เมื่อครั้งที่ยังไม่หมดสัญญา ให้ถ่ายรูปเพื่อเป็นของขวัญที่ระลึกให้กับ FC ในวันแฟนมีตติ้ง โดยคู่กรณีเป็นคนเลือกสตูดิโอย่านสุทธิสาร เป็นจุดถ่ายทำ วันเกิดเหตุ คู่กรณีเดินทางไปถึงสตูดิโอก่อน ตนรถติดไปถึงภายหลัง จากนั้นได้เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัวสังเกตเห็นนาฬิกาดิจิทัลตั้งอยู่ โดยหันมุมมาทางตนที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า และเห็นว่าผิดสังเกต จึงเปิดไฟฉายในกล้องโทรศัพท์มือถือส่องดู และนำนาฬิกาดิจิทัลดังกล่าว ออกไปให้คู่กรณีช่วยตรวจสอบ แต่คู่กรณีมีท่าทีนิ่งมาก และแกะตรวจสอบเฉพาะในส่วนใส่ถ่านให้ดู และยืนยันว่าไม่พบการซ่อนกล้อง และบอกว่านาฬิกาดังกล่าวเป็นของทางสตูดิโอ ก่อนผู้เสียหายกลับเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและถ่ายภาพตามปกติ

สาวไอดอล กล่าวอีกว่า หลังจากออกจากสตูดิโอไม่นาน กลับพบโพสต์เตือนภัยช่างภาพซ่อนกล้องในนาฬิกาดิจิทัลแอบถ่ายหญิงสาว จึงสงสัยว่าตนอาจถูกแอบถ่าย เนื่องจากนาฬิกาดิจิทัลที่ใช้ซ่อนกล้องมีลักษณะเหมือนกับที่พบ และไปโพสต์หาข้อมูลทางเว็บขายของ พบการลงขายมีกล้องแอบถ่าย แบบที่เพิ่งเผชิญมาจำนวนมาก จึงกลับไปขอดูวงจรปิดจากเจ้าของสตูดิโอ พบพิรุธของช่างภาพคู่กรณี ว่าเป็นคนนำนาฬิกาดิจิทัลที่สงสัยซ่อนกล้องแอบถ่ายไปวางไว้ในห้องน้ำ ก่อนที่จะเดินทางมาถึง จึงปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือคู่กรณีที่นำกล้องมาแอบถ่ายตนในช่วงเปลี่ยนเสื้อผ้าแน่นอน แต่เมื่อสอบถามก็ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง จึงได้ไปแจ้งความลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เนื่องจากมีผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า เคยถูกคู่กรณีตั้งกล้องแอบถ่ายมาแล้ว

ล่าสุดมีรายงานว่า ช่างภาพหนุ่มคู่กรณียอมรับแล้วว่าเป็นคนตั้งกล้องแอบถ่ายผู้เสียหายจริง นำคลิปไปดูช่วยเหลือตัวเอง ไม่ได้นำไปเผยแพร่หรือจำหน่ายที่ไหน และยังรับว่าเคยก่อเหตุมาแล้ว 3-4 ครั้ง กับนางแบบสาวหลายคน

ต่อมา 12.00 น. ตากล้องผู้ก่อเหตุ ออกมาขอโทษผู้เสียหายและสังคมกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเจ้าตัวสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวขึ้นจริง และเคยกระทำลักษณะนี้มาแล้ว 5-6 ครั้ง ในระยะเวลา 1 ปี ส่วนสาเหตุที่ทำเพราะชอบความท้าทาย ทำแล้วไม่มีใครจับได้ ส่วนเรื่องที่จะนำภาพไปสำเร็จความใคร่ เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น และไม่ได้มีการนำภาพไปเผยแพร่หรือว่าขายแต่อย่างใด

ช่างภาพคู่กรณี เผยอีกว่า วันนี้ที่เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ เพราะต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ และอยากขอโทษ ว่าสำนึกผิดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงๆ ส่วนเรื่องที่ไม่ยอมรับตั้งแต่แรกเพราะกลัวความผิด หลังจากนี้จะไม่ทำงานในวงการนางแบบอีก และอยากจะขอโทษเพื่อนร่วมอาชีพ ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากสิ่งที่ตนได้ก่อขึ้น เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนให้กับตน และเป็นอุทาหรณ์ให้กับเพื่อนร่วมอาชีพว่าควรมีจรรยาบรรณ ส่วนเรื่องที่ว่ามีอาการทางจิตหรือไม่ ตนได้ทำการติดต่อแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจแล้ว แต่ไม่ขอนำผลการตรวจมาเป็นแนวทางในการสู้คดีแต่อย่างใด เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจและบริสุทธิ์ใจด้วย

กัน จอมพลัง เผยว่า หลังการพูดคุยเจรจา ผู้เสียหายยังเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนผู้ก่อเหตุก็รับสารภาพ ว่าทำมาแล้วกี่คน ทำที่ไหนมาแล้วบ้าง และออกมาขอโทษสังคม นอกจากนี้เจ้าตัวต้องปิดเพจ เลิกรับงาน และต้องมีการโพสต์ขอโทษผู้เสียหายผ่านทางเฟซบุ๊กด้วย ส่วนเรื่องเยียวยาผู้ก่อเหตุ พร้อมเยียวยาก็ให้ไปคุยตกลงกับผู้เสียหายเอง แต่หลังจากนี้ หากมีภาพหลุดไปก็ต้องดำเนินคดีต่อเช่นเดียวกัน

ด้านสาวไอดอล เปิดเผยว่า หลังการเจรจายอมรับคำขอโทษ แต่ก็ยังโกรธอยู่ดี เพราะเขาคือคนที่เราไว้เนื้อเชื่อใจมาก ไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะกระทำแบบนี้กับเรา อีกอย่างคือตนเป็นโรคแพนิค อยู่ในช่วงรักษาใกล้จะหายแล้ว ตัวคู่กรณีก็รู้ยังมาทำแบบนี้อีก เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากนี้ต้องระวัง หรือกลัว กังวลไหม ไอดอลสาวเผยว่า ก่อนหน้านี้มีงานถ่ายในสตูเข้ามา ก็คงจะปฏิเสธ และขอพักงานถ่ายลักษณะนี้ไปก่อน ส่วนเรื่องคดีถึงแม้รับคำขอโทษ แต่คดีก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย

หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล ในฐานะผู้จัดการหนึ่งในนางแบบที่ได้รับความเสียหาย เปิดเผยว่า วันนี้ได้รวบรวมผู้เสียหายที่ติดต่อเข้ามาขอความช่วยเหลือแล้ว 5 คน และยังมีนางแบบรายอื่นๆ ติดต่อเข้ามาอีก ซึ่งต้องมาดูว่าเป็นผู้เสียหายด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ทางด้านผู้ก่อเหตุก็ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้ออกมาขอโทษต่อสังคมแล้ว ส่วนตัวในฐานะของผู้ที่อยู่ในวงการนี้ มองว่า ทุกวงการมีทั้งคนดีและคนไม่ดี หากเจอคนที่ไม่ดีกระทำความผิด เราก็ควรใช้กฎหมายจัดการคนเหล่านั้นให้ถึงที่สุด และเชื่อว่ายังมีคนในสังคมอีกมากที่ยังไม่กล้าออกมาเปิดเผย และปกป้องศักดิ์ศรีตัวเอง ซึ่งตนมองว่านางแบบ หรือใครที่โดนกระทำแบบนี้ ควรออกมาสู้เพื่อปกป้องตัวเองเช่นเดียวกัน

พ.ต.ท.ชุติพนธ์ กล่าวว่า เบื้องต้นมีหญิงสาวผู้เสียหาย 5 ราย 3 ราย เจรจาพูดคุยกันแล้วยอมความและให้อภัย เนื่องจากคู่กรณีเป็นคนคุ้นเคยรู้จักกันมาก่อน และยังไม่มีการแอบถ่ายกัน อีกทั้งผู้ต้องหายอมรับสารภาพและจะทำลายคลิปฉาวทั้งหมด ส่วนอีก 2 ราย ไม่ยอมความ แจ้งข้อหาอนาจาร ส่วนเจ้าของสตูดิโอก็จะเอาผิดช่างภาพดังกล่าว เนื่องจากทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงสตูดิโอ และมาลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ซึ่งคาดว่าคงจะไม่ยอมความเช่นกัน