จากกรณีตำรวจ สน.บางเขน จับกุมตัว นายเอ อายุ 46 ปี และนางบี อายุ 40 ปี ก่อเหตุสังหารลูกสาววัย 2 ขวบ แล้วโบกปูนฝังไว้ที่บ้าน จ.กำแพงเพชร ต่อมาตำรวจคุมตัวนายเอ มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ห้องปฏิบัติการฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน

ล่าสุด พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อม พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน ร่วมกับตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจ บก.สส.บช.น. ตำรวจ สน.บางเขน และนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องพัก ภายในอพาร์ตเมนต์ ซอยพหลโยธิน 48 แยก 11 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ที่ผู้ต้องหาใช้พักอาศัย

ความคืบหน้าเวลา 15.00 น. วันที่ 20 ก.ย. นายกัน จอมพลัง กล่าวว่า ตามที่มีหลักฐานว่า นายเอ เคยเข้ารักษาตัวด้วยอาการป่วยทางจิต แต่ตนเชื่อว่าการที่ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายเด็กจนเสียชีวิต และนำร่างเด็กนำร่างลูกไปฝังที่จังหวัดกำแพงเพชร ก่อนฝังมีการห่อถุงพลาสติกถึง 3 ชั้น มีปูนโบกทับเรียบร้อย แบบนี้ไม่ใช่เรื่องของการเป็นโรคจิต หรือป่วยจิตเวช แต่เป็นการวางแผนฆ่าและทำลายหลักฐานอย่างเป็นขั้นตอน

พ่ออำมหิตโบกปูนลูก2ขวบให้การภาคเสธ เมียอีกคนรับถูกทำร้ายบังคับนำศพลูกไปทิ้ง

ส่วนตัวเชื่อว่าแบบนี้มันเหลี่ยมจัด วางแผนมาอย่างรอบคอบ แล้วจะเอามาอ้างในชั้นศาลไม่ได้ พฤติกรรมที่กระทำผิดนั้น มีการวางแผนเป็นขั้นตอน ไม่ใช่คนพูดจาไม่รู้เรื่องเดินเหม่อลอยเหมือนพวกมีอาการทางจิตประสาทที่พบเห็นทั่วไปแต่อย่างใด อีกทั้งหากจับไม่ได้ ไล่ไม่ทัน ก็จะไม่รับสารภาพ เพราะระหว่างที่นำตัวไปชี้จุดที่กำแพงเพชร ผู้ต้องหาเองก็ไม่ได้มีการเปิดปากรับสารภาพถึงลูกอีก 4 คนที่ได้ลงมือฆ่าจนเสียชีวิต ถือว่าเป็นคนที่จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าได้แม้กระทั่งลูกตัวเอง