ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มีวาระสำคัญ แต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผงาดครองนามเรียกขาน พิทักษ์ 1 ก้าวขึ้นสู่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 14 ทำหน้าที่ผู้นำยุทธจักรสีกากี นำพาข้าราชการตำรวจก้าวสู่ยุคใหม่ อย่างเต็มภาคภูมิ นั้น

เปิดผลโหวต ก.ตร. มีมติ 10 ต่อ 1 เลือก ‘บิ๊กต่อ’ ผงาด ผบ.ตร. คนที่ 14

วันนี้ทีมข่าว เดลินิวส์ จะนำพาผู้อ่าน มาทำความรู้จักอีกมุม ของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ที่น้อยคนจะรู้มาก่อนว่า นายตำรวจท่านนี้ฝักใฝ่ยึดคติธรรมนำพาชีวิต จนก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของวงการตำรวจ โดยครั้งหนึ่งเคยได้รับฉายาว่า “มือปราบสายธรรมะ” และ “โรโบคอปสายบุญ”

สำหรับความผูกพันกับหลักคำสอนทางพุทธศาสนา และทำให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ไม่เคยลืมตัวในอนัตตาอยู่เสมอนั้น ครั้งหนึ่ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เคยให้สัมภาษณ์เดลินิวส์ ว่า ที่ผ่านมาตนเองเคยเป็นเด็กวัด การได้เป็นเด็กวัดเดินตามพระ ทำให้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง โดยเฉพาะทำให้ได้คิดว่า เมื่อเราถอดเครื่องแบบออกแล้ว เราก็แค่คนธรรมดา ไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นใคร ใหญ่โตแค่ไหน และตอนที่อยู่วัด ได้ตื่นเช้า ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ได้ตอบแทนพุทธศาสนา แถมได้ออกกำลังกายด้วย จึงชอบชวนให้ลูกน้องเข้าวัด แต่ไม่ได้บังคับ ทุกคนสมัครใจที่จะทำ เหตุนี้ละมั้งที่ใคร ๆ ชอบเรียกเราว่าเป็นมือปราบสายธรรมะ

ที่สำคัญ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้เคยคิดไปถึงขั้นเป็น ผบ.ตร. เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่สำคัญ ไม่ใช่นักเรียนนายร้อย แต่จะยึดคติที่ตนเองพึงระลึกเสมอ นั่นก็คือทำงานในตำแหน่งที่เราได้รับให้ดีที่สุดก็พอ

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ต้องจับตาดูห้ามกะพริบ ว่า 1 ปีในอายุราชการการคุมบังเหียนกรมปทุมวัน พล.ต.อ.ต่อศํกดิ์ จะขับเคลื่อนองค์กรไปในทิศทางใด.