เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางจำกัดการออกใบอนุญาตพกปืนแก่บุคคลทั่วไป ว่า เป็นการเชิญอธิบดีกรมการปกครอง ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือ หลังจากที่ตนได้มอบหมายให้อธิบดีกรมการปกครอง ตรวจสอบข้อกฎหมาย กฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอาวุธปืน และสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ทำอันตรายประชาชน และให้มารายงานเพื่อนำมาพิจารณาว่าจะควบคุมอย่างไร โดยกำชับว่าในยุคที่ตนเป็น รมว.มหาดไทย คงไม่อนุญาตให้บุคคลธรรมดา ประชาชน มีใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนไปตามสถานที่ต่างๆ ต้องดูไปทีละขั้นตอน และครอบคลุมไปถึงบีบีกัน ของเล่นที่มีลักษณะเหมือนอาวุธปืนที่จะนำมาดัดแปลงเป็นอาวุธร้ายแรงได้ เราต้องควบคุมให้หมด

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ตนให้แนวคิดกับอธิบดีกรมการปกครอง ว่าบางคนที่อยากพกปืน เพราะไปมีเรื่องกับคนอื่น จึงกังวลและต้องการพบปืนไว้ป้องกันตัว แบบนี้จะไม่ให้มีต่อไป จะให้พกพาได้เฉพาะเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเท่านั้น ขณะที่สนามยิงปืนต้องควบคุมจำกัดบุคคลเข้าใช้ และไม่ควรให้เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเข้าไปซ้อมยิงปืนในสนาม รวมถึงคนที่อ้างว่าต้องการมีใบพกพา เพราะต้องไปซ้อมยิงปืน ก็ต้องควบคุม โดยอาจจะให้ผู้ที่เป็นนักกีฬาหรือผู้ที่จะเข้าไปใช้ ฝากปืนไว้ที่สนามซ้อมไม่ให้พกพา โดยการจะออกระเบียบ ต้องให้กรมการปกครองที่เป็นหน่วยปฏิบัตินำเสนอเรื่องเข้ามา

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะพิจารณาข้อกฎหมายให้ครอบคลุมไปถึงสิ่งเทียมอาวุธปืนทั้งหมดใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใช่ โดยย้ำอธิบดีกรมการปกครองไปแล้วว่า สิ่งใดที่มีปัญหาจากการบังคับใช้กฎหมายและระเบียบที่มีอยู่แต่ละสมัย ขอให้แจ้งมา หากต้องแก้ไขเพื่อดำเนินการต่อไป เพราะนายกฯ มีนโยบายชัดเจน ให้จำกัดการใช้อาวุธปืนเหล่านี้