เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านเลขที่ 88 หมู่ที่ 7  บ้านดอนนาดี ต.บ้านขาม อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นบ้านญาติของนายกิตติพงษ์ ไชยโก หนึ่งในแรงงานไทย 15 คน ที่เดินทางกลับมาบ้านในวันนี้ ซึ่งที่บ้านเลขที่ดังกล่าวมี นางหนูพันธ์  ไชยโก  อายุ 60 ปี แม่ของนายกิตติพงษ์   หนึ่งในแรงงานไทยที่เดินทางกลับประเทศไทยชุดแรก 15 คน พร้อมด้วย นายสมภาร  วอหล้า  ผู้ใหญ่บ้านบ้านดอนนาดี และเพื่อนบ้านอีกหลายคนมาร่วมกันติดตามข่าวการกลับมาของแรงงานไทยอย่างใกล้ชิด ซึ่งทางนางหนูพันธุ์  ผู้เป็นแม่สุขภาพไม่ดีจึงได้ให้ นายสมาน  ไชยโก อายุ 62 ปี ผู้เป็นพ่อด้วยเดินทางไปรับลูกชายที่สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมทั้งได้ฝากเอาพระ ฝ้ายผูกข้อมือและสั่งกำชับว่าเมื่อลูกลงมาแล้วให้กอดรับเอาลูก ผูกแขนให้ลูก ได้รับความอบอุ่น

นางหนูพันธุ์ กล่าวว่า  รู้สึกดีใจมากที่จะได้เห็นลูกชายกลับมา และเตรียมที่จะรับขวัญโดยในวันนี้ ได้ฝากฝ้ายผูกแขนจากทางบ้านให้พ่อถือไป เมื่อลูกลงจากเครื่องบินแล้วขอให้ผูกแขนรับขวัญลูกเลย กอดรับเอาลูกในทันที ส่วนการกลับมาบ้านแล้วก็จะมาทำพิธีการบายศรีสู่ขวัญอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังไม่รู้เลยว่า ลูกจะได้เดินทางมาถึงบ้านในวันเวลาไหน ต้องรอโทรศัพท์ติดต่อกันอีกครั้งหนึ่ง

 “เชื่อว่าที่ลูกรอดชีวิตกลับมาด้วยความปลอดภัยนั้น เป็นบารมีของปู่หลักบ้าน ของบ้านดอนนาดี ที่เคารพของชาวบ้าน ก่อนเดินทางไปก็ได้นำเอาขันธุ์ 5 ไปกราบ ขอให้ท่านรักษาและก่อนวันเกิดเหตุ หลานที่ไปด้วยกันก็บอกว่า ในช่วงกลางคืน ได้ฝันเห็นปู่ใส่ชุดขาวมาเข้าฝัน บอกว่า กลางคืนอย่านอนกันจะมีอันตรายให้พากันระวัง ความจริงแล้วตอนแรกลูกชายจะไปหลบร่วมกับเพื่อนที่หลุมหลบภัย ที่คนไทยถูกฆ่าตาย 6 คน แต่เพื่อนอีกคนบอกว่าไม่ต้องไป จึงได้อยู่อีกฝั่งหนึ่ง และเชื่อว่าที่รอดชีวิตมาได้อย่างปลอดภัย เพราะบารมีของหลวงปู่ประจำหมู่บ้าน”นางหนูพันธุ์ กล่าว

ส่วนบ้านนายสมพร คาระบุตร บ้านเลขที่ 165 ม.6 ต.หนองภัยศูนย์ อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู แรงงานจังหวัดหนองบัวลำภู อีกคนกำลังเดินทางกลับมาจากสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อกลับมายังจังหวัดหนองบัวลำภู ปิดบ้านเงียบไม่มีใครอยู่