เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ 136 แรงงานชาวไทย ซึ่งโดยสารเครื่องบินกองทัพอากาศ Airbus340-500 เที่ยวบินที่ RTAF220 หลังจากเดินทางออกจากสนามบินนานาชาติ เบนกูเรียน ประเทศอิสราเอล มาถึงไทยในเวลา 14.00 น. ซึ่ง 1 ใน 136 คน มี นายวิทวัส กุลวงศ์ หรือ แจ๊ค อายุ 34 ปี ชาว จ.อุดรธานี เดินทางถึงห้องรับรองแรงงานไทย น.ส.วาสนา พิมพ์สุวรรณ หรือ อ้อน อายุ 27 ปี ภรรยา และ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 5 ขวบ ได้มาเฝ้ารอรับนายแจ๊คอย่างใจจดจ่อบริเวณด้านนอกห้อง ซึ่งในวันนี้พบว่านายแจ๊ค ได้มีการแปะผ้าพันแผล บริเวณหน้าผากช่วงบนและลำคอข้างขวาไว้ โดยมีทีมแพทย์เข้าตรวจดูสภาพแผลและประเมินเบื้องต้น ก่อนอนุญาตให้ภรรยาและลูกของนายแจ๊คเข้ามาภายในห้อง จากนั้นภรรยาได้จูงมือลูกสาวเข้าไปหานายแจ๊ค และโผเข้าสวมกอดสามีพร้อมกับร่ำไห้ ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ใช้เวลาในการพูดคุยกัน ในขณะที่ลูกสาวได้กระโดดขึ้นไปนั่งบนตักของพ่อ และพูดคุยหยอกล้อกับพ่อของตัวเอง

เปิดประวัติหนุ่มใจเด็ดสู้ฮามาสมือเปล่า ที่แท้เคยเป็นทหารรักษาพระองค์

ต่อมาเมื่อมีการพูดคุยเรื่องเอกสารและสอบถามอาการกับทีมแพทย์เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ทางตัวแทนของกรมการกงสุล ได้ออกมาเปิดเผยว่า นายแจ๊คขอความกรุณาไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เนื่องจากต้องการพักผ่อน อีกทั้งยังมีการแปะผ้าพันแผลไว้ที่ช่วงลำคอจึงอาจจะทำให้พูดคุยไม่สะดวก ซึ่งแพทย์ได้มีการตรวจเช็กแผลแล้วไม่พบการอักเสบ แผลไม่มีการติดเชื้อ ปลอดภัยทุกอย่าง จึงอนุญาตให้นายแจ๊คกลับไปพักที่บ้านได้ จากนั้นนายแจ๊คและครอบครัวจึงเดินออกจากห้องรับรอง โดยนายแจ๊คเป็นคนอุ้มลูกสาวไว้ข้างกาย ก่อนทั้งหมดจะตรงขึ้นรถรับส่งกลับไปพักผ่อนที่ภูมิลำเนาต่อไป

สำหรับนายแจ๊ค ชาว จ.อุดรธานี คือ 1 ในแรงงานชาวไทยซึ่งถูกกลุ่มฮามาสใช้มีดปาดคอและแทงตามลำตัว ศีรษะ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่นายแจ๊คได้ตัดสินใจต่อสู้กับกลุ่มฮามาสด้วยมือเปล่า จนรอดชีวิตมาได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการจัดเตรียมกระเป๋าเดินทางของ 136 แรงงานชาวไทย วางไว้บริเวณด้านหน้าอาคาร ก่อนที่เวลา 16.30 น. ทั้งหมดจะทยอยเดินออกจากตัวอาคาร และขึ้นไปยังรถบัสที่จัดเตรียมไว้ทั้ง 4 คัน ต่อมารถบัสทั้งหมด ได้เคลื่อนตัวออกไปจากบริเวณด้านหน้าท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 เพื่อนำแรงงานไทยลอตดังกล่าวนี้ ไปส่งยังสถานีกลางบางซื่อ ก่อนแยกย้ายเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนากันต่อไป.