เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ต.ค. ที่ สน.ดินแดง นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พานางเอ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ผู้เป็นแม่ พร้อม น.ส.บี (นามสมมุติ) ลูกสาววัย 16 ปี ผู้เสียหาย เข้าพบ พ.ต.ท.พรชัย โรจนวิภาต สว.(สอบสวน) สน.ดินแดง เพื่อติดตามคดี ลูกสาวถูกน้าเขยล่วงละเมิด และข่มขู่รีดไถเงิน

โดย นางเอ กล่าวว่า คดีนี้เหตุเกิดเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา แต่ตนเองเพิ่งทราบเรื่องเมื่อช่วงกลางเดือน ธ.ค. ปี 65 โดยเหตุเกิดใน 2 พื้นที่ คือ สน.ดินแดง และ สภ.กันทรอม จ.ศรีสะเกษ จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 65 และเข้าแจ้งความดำเนินคดี ที่ สน.ดินแดง เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ในข้อหาพรากผู้เยาว์เพื่ออนาจาร

แม่ผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า ตนและผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นสามีกับญาติของตน (มีศักดิ์เป็นน้าเขยของลูก) มีความสนิทสนมกันมานาน บ้านอยู่ติดกัน พอตนมาทำงานค้าขายใน กทม. ตนและผู้ก่อเหตุก็พักอาศัยห้องเช่าติดกัน ส่วนลูกสาวอาศัยอยู่กับตาและยายที่ จ.ศรีสะเกษ ช่วงปิดเทอมก็จะมาหาตนที่ กทม. ด้วยความไว้วางใจและเลี้ยงดูกันมาตั้งแต่เด็ก ลูกสาวก็เรียกผู้ก่อเหตุว่าพ่อ จึงไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่สังเกตเห็นความผิดปกติจากเฟซบุ๊กลูกสาว ที่โพสต์ข้อความระบายอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อสอบถามลูกสาวก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง นอกจากนี้ในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา ลูกสาวได้ขอเงินบ่อยขึ้น รวมแล้วหลายครั้งเป็นจำนวนรวมหลักหมื่นบาท จนกระทั่งช่วงกลางเดือน ธ.ค. 65 ลูกสาวตัดสินใจเล่าทุกอย่างให้ฟังเพราะทนไม่ไหว เมื่อทราบเรื่องก็รู้สึกตกใจมาก จึงพาลูกสาวไปตรวจร่างกาย และพบว่าลูกสาวมีประวัติการรักษาโรคซึมเศร้า โดยที่ตัวเองไม่รู้เรื่องมาก่อน

“หลังจากที่เป็นคดีความ ครอบครัวของผู้ก่อเหตุได้รับหมายเรียกจากตำรวจ ได้พยายามโทรศัพท์มาเพื่อเจรจาขอให้ถอนแจ้งความ โดยอ้างว่าให้เห็นแก่ลูกของผู้ก่อเหตุ ตนจึงถามกลับไปว่า ไม่มีใครเห็นใจตนกับลูกสาวบ้างเลยหรือ จากนั้นเมื่อไม่ยอมความ ครอบครัวผู้ก่อเหตุก็พยายามติดต่อไปที่ตากับยายที่ดูแลน้อง ซึ่งตากับยายก็ยืนยันว่าจะไม่ยอมความเหมือนกัน จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก” นางเอ กล่าว

ขณะที่นายกัณฐัศว์ บอกเพิ่มเติมว่า ผู้เสียหายยังถูกข่มขู่มาโดยตลอดว่าไม่ให้บอกใคร ไม่อย่างนั้นจะตายกันทั้งคู่ พร้อมทั้งขู่เอาชีวิตและบังคับให้โอนเงินให้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ถ้าไม่ยอมโอนเงินให้ จะบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ผู้เสียหาย ซึ่งมีหลักฐานเป็นสลิปโอนเงินจำนวนมาก และเมื่อผู้เสียหายได้เงินมา ก็ให้เอาไปซ่อนไว้ตามเถียงนา ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะไปเอาเงินมาใช้

ส่วนเรื่องคดีความ สภ.กันทรอม จ.ศรีสะเกษ ได้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุไปแล้ว 28 กรรม ขณะนี้อยู่ระหว่างชั้นพิจารณาของศาล ซึ่งผู้ก่อเหตุ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ที่ สน.ดินแดง ผ่านไปกว่า 10 เดือน ยังอยู่ระหว่างชั้นพนักงานสอบสวน โดยจะเรียกให้ผู้ก่อเหตุมาพบในวันพุธที่ 25 ต.ค. นี้ เพื่อส่งตัวให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้อง โดยพนักงานสอบสวนยื่นคำขาดว่า ถ้าหากไม่มาพบตามนัดจะออกหมายจับทันที เพราะก่อนหน้านี้ ผู้ก่อเหตุพยายามขอเลื่อนนัดตำรวจมาโดยตลอด หลังจากเข้ามอบตัวและได้รับการปล่อยตัวออกไป.