เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ ศูนย์ประสานงานเพจสายไหมต้องรอด เขตสายไหม น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี เข้าร้องเรียน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความเป็นธรรม หลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นโมเดลลิ่ง ทีมงานของบริษัท ไทบ้าน หลอกหลวง

น.ส.บี เล่าว่า เธอเข้าไปหางานในกลุ่มเฟซบุ๊กหางานนักแสดง จากนั้นก็มีชายคนหนึ่งติดต่อเข้ามา อ้างตัวเป็นสาวประเภทสอง เรียกแทนตัวเองว่า “คุณแม่เอ” และบอกว่าตนเองเป็นโมเดลลิ่งคัดเลือกนักแสดง ของบริษัทไทบ้าน ที่กำลังมีภาพยนต์โด่งดังอยู่ขณะนี้ จึงทำให้เธอสนใจ จากนั้นก็มีการดึงเธอเข้ากลุ่มไลน์และให้ส่งข้อมูลส่วนตัวเข้าไป แต่เธอส่งไปล่าช้า เนื่องจากติดสอบเลยไม่ได้ตอบไลน์ทันที จากนั้น คุณแม่เอ ด่าทอต่อว่าเธอ ประกอบกับเธอพิมพ์ไปในกลุ่มว่า จะขอพาพ่อไปเป็นเพื่อนในการแคสนักแสดง ก็ยิ่งทำให้คุณแม่เอ ด่าเธออีก จากนั้นเธอก็ถูกลบออกจากกลุ่มและนำชื่อและข้อมูลส่วนตัวของเธอไปประจานในกลุ่มเฟซบุ๊ก เธอจึงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน.สุทธิสาร เนื่องจากถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปเผยแพร่

จากนั้น น.ส.บี กล่าวต่ออีกว่า หลังจากแจ้งความไปแล้ว จึงได้นำเรื่องราวไปโพสต์เตือนในเฟซบุ๊ก เพื่อไม่ให้ใครหลงเชื่อ ปรากฎว่ามีผู้เสียหายมาเล่าให้ฟังว่าเคยเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้ พร้อมเปิดเผยอีกว่า ยังมีเยาวชนอายุ 17 ปีถูก คุณแม่เอ กระทำอนาจารผ่านข้อความแชทในลักษณะพูดคุยลามก แต่เยาวชนที่เสียหายไม่กล้าแจ้งตำรวจ เพราะกลัวทางบ้านต่อว่า และยังมีเยาวชนอีกหลายคนที่มาเล่าให้เธอฟังในลักษณะแบบเดียวกัน

น.ส.บี ยังบอกอีกว่า แม้ว่าเธอจะยังไม่ถูกกระทำอนาจารเพราะถูกให้ออกจากกลุ่มไลน์ก่อน แต่เธอก็กังวล เพราะจากที่เธอทราบเรื่องราวของผู้เสียหายคนอื่นๆ ก็รู้สึกหวั่นใจ เพราะกลัวว่าชายคนนี้จะกระทำการเข้าข่ายค้ามนุษย์หรือไม่

นอกจากนี้เธอยังได้สอบถามไปยังบริษัท ไทบ้าน และเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง ทางบริษัทไทบ้าน ก็ได้ออกหนังสือแถลงการณ์คำชี้แจง ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโมเดลิ่งดังกล่าว และไม่มีการเปิดรับนักแสดงในช่วงนี้อีกด้วย และไม่ได้มอบหมายให้พนักงานในบริษัทจัดหานักแสดง ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้พยายามค้นหาเฟซบุ๊กของคุณแม่เอ ใช้ชื่อเฟซว่า “ประมวล กิจการดี” และกลุ่มที่แอบอ้างก็ไม่มี Account แล้ว

นายเอกภพ บอกว่า จากการตรวจสอบพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายหลอกลวงและมีความผิดตามกฎหมายข้อหาอนาจาร ส่วนผู้เสียหายคนอื่นหากรู้ตัวว่าตกเป็นเหยื่อของคุณแม่เอ ขอให้กล้าออกไปแจ้งความ เพราะหลักฐานพวกข้อความแชตเป็นหลักฐานที่ส่อว่าจะเข้าข่ายการกระทำอนาจาร ทั้งนี้ฝากเตือนประชาชนด้วยว่า เคยมีบุคคลอ้างตัวเป็นสาวประเภทสอง อ้างเป็นโมเดลลิ่งคัดนัดแสดง ก่อนลวงไปกระทำอนาจารเช่นเดียวกัน แต่พอถูกตำรวจจับกุมกลับพบว่าเป็นชายแท้ทั้งแท่ง จึงตั้งข้อสังเกตว่าบุคคลรายนี้เป็นคนเดียวกันหรือไม่.