เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รับผิดชอบงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม กล่าวถึงกรณีตำรวจ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ บุกจับร้านเหล้าเปิดเกินเวลา และพบเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอยู่ภายในร้าน เป็นการทำงานซ้ำซ้อนกันหรือไม่ระหว่างสองหน่วยงาน ว่า กรณีดังกล่าวไม่ใช่การทำงานซ้ำซ้อนกัน แต่เป็นกรณีที่ต่างฝ่ายต่างก็ปฏิบัติหน้าที่ไปตามกฎหมายที่ได้ให้อำนาจไว้แก่ทั้ง 2 หน่วยงาน

โดยให้มีอำนาจในการเข้าไปตรวจตราในสถานบริการได้ ไม่ว่าเวลาใดๆ กฎหมายสถานบริการ จะมีกระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพหลัก กฎหมายนี้มีอำนาจหลักๆ อยู่ 3 กรณี คือ 1.อำนาจในการออกใบอนุญาตตั้งสถานบริการ ถ้าเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัด เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด 2.อำนาจในการสั่งปิดสถานบริการ ในกรุงเทพฯ เป็นของ ผบ.ตร. ถ้าต่างจังหวัด เป็นของผู้ว่าราชการจังหวัด 3.อำนาจในการตรวจค้นจับกุม ทั้งตำรวจและมหาดไทยมีอำนาจนี้เหมือนกัน

ส่วนกรณีจะเป็นปัญหาระหว่างหน่วยงานหรือไม่นั้น รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า จากการทำงานที่ผ่านมาทั้งตำรวจและฝ่ายปกครอง ต่างก็ได้ร่วมมือกันเป็นอย่างดีมาโดยตลอด เพราะเท่าที่ผ่านมาในจังหวัดต่างๆ ท่านผู้ว่าฯ ก็จะมีคำสั่งบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าคณะทำงาน ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ท่าน ผบ.ตร. ก็ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการการทำงานเรื่องนี้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นกัน ดังนั้น กรณีดังกล่าวจะไม่เป็นปัญหาระหว่างหน่วยงาน เพราะต่างก็ทำหน้าที่ตามกฎหมายและสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาล และเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชน