เมื่อวันที่ 8 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รรท.รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางลงพื้นที่ไปยัง กองอำนวยการร่วมบริเวณน้ำตกโตนเต๊ะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง หลังจากมีการยิงปะทะกันเกิดขึ้นระหว่างตำรวจแดนไทย 54 กับ เสี่ยแป้ง นาโหนด ผู้ต้องหาที่หลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช

ฮึ่มวิสามัญ! ผบ.ตร. เปิดพฤติการณ์ ‘เสี่ยแป้ง’ เหิมยิงสู้ตำรวจ ก่อนถอยร่นหนีเข้าป่าทึบ

พล.ต.ท.ธนา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ผบ.ตร.มีความห่วงใยกำลังพลที่ปฎิบัติงานทุกคน จึงได้มอบหมายให้ตนมาช่วยดูแล เนื่องจากพื้นที่บนเขาบรรทัดเป็นป่าลึก ยอดเขาสูง ยากต่อการติดตามจับกุม ตำรวจก็พยายามติดตาม ก่อนที่ผู้หลบหนีจะใช้อาวุธปืนสงครามยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ โชคดีตำรวจหลบได้ทันไม่มีใครบาดเจ็บ ทางตำรวจก็ได้ไล่ติดตามจนพบปืน เอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก ส่วนเสี่ยแป้งนั้นได้หลบหนีอยู่ แต่ที่ทราบมาเสี่ยแป้งก็คงมีอาวุธปืนสงคราม และอาวุธปืนขนาด 9 มม.ติดตัวอยู่ อีกทั้งพบว่ามีเสบียง มีเครื่องปั่นไฟและมีที่พักของเสี่ยแป้งอยู่บนนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบหมดแล้ว ก็อยากบอกไปถึงญาติพี่น้องว่าขอให้นำตัวเสี่ยแป้งมามอบตัว ทางตำรวจก็พร้อมที่จะรับมอบตัว ทางตำรวจก็ไม่ได้อยากใช้ความรุนแรง อย่าต่อสู้ขัดขวางตำรวจ เพราะกำลังเขาเราก็พร้อมจะปฎิบัติงานอยู่แล้ว

ซึ่งจากการดูพื้นที่แล้วคิดว่ายังไงก็คงจะจับกุมได้อยู่ดี แต่เสี่ยแป้งมีการเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะมีใครอยู่กับเสี่ยแป้งอีกหรือไม่ ขอความร่วมมือชาวบ้านใกล้เคียง ให้ช่วยกันให้ความร่วมมือกับตำรวจ พรุ่งนี้ (9 พ.ย.) ทางตำรวจก็จะมีการระดมกำลังเข้าพื้นที่ไปอีกชุดหนึ่ง

ส่วนการที่มีกระแสข่าวออกไปว่า เสี่ยแป้งโดนวิสามัญฆาตกรรมนั้น ตนคิดว่าชาวบ้านคงจะได้ยินเสียงปืน เพราะเป็นอาวุธปืนสงครามยิงตอบโต้กัน ที่มีการยิงปะทะกัน แต่ข้อเท็จจริงเท่าที่มีการตรวจสอบยังไม่มี เพราะตนตรวจสอบข้อมูลอยู่ตลอด และที่สำคัญคือเสี่ยแป้งมีสุนัขติดตัว ในจังหวะที่เจ้าหน้าที่พบตัว สุนัขได้เห่าขึ้น จึงคิดได้ว่าเสี่ยแป้งมีการเตรียมตัวมาอย่างดี พร้อมกับมีอาวุธพร้อมตอบโต้.