โจเซฟ กีฆาร์โร นักข่าวหนุ่มชาวสเปนและนักศึกษาเรื่องยูเอฟโอและเอเลี่ยนทวีตข้อความบนเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) หลังจากที่เขาได้รับภาพของมัมมี่รูปร่างประหลาดร่างหนึ่งจากแหล่งข่าวนิรนาม โดยมีข้อมูลเพียงว่าเป็นซากมัมมี่ที่พบในประเทศโคลอมเบียและถูกเรียกว่าเป็น “มัมมี่เอเลี่ยน”

มัมมี่ตนนี้มีกะโหลกศีรษะส่วนบนที่ยื่นยาว ดวงตายาวรี ปลายหางตาเฉียงขึ้นและมีกระดูกซี่โครงเพียงข้างละ 10 ชิ้น (มนุษย์ทั่วไปมีกระดูกซี่โครงข้างละ 12 ชิ้น) นอนขดตัวในลักษณะคล้ายทารกในครรภ์ซึ่งน่าจะเป็นท่าทางของร่างมัมมี่นี้ก่อนตาย 

กีฆาร์โร ยอมรับว่าเขาไม่มีข้อมูลที่สามารถยืนยันได้ว่าภาพชุดนี้เป็นของจริงหรือว่ามัมมี่ดังกล่าวเป็นของจริง แต่ก็เชื่อว่ามีหลายคนที่เชื่อว่ามันคือซากร่างของมนุษย์ต่างดาวไปแล้วอย่างแน่นอน แต่โดยส่วนตัวของเขาเองนั้น ยังคงไม่เชื่อโดยสนิทใจ

นักข่าวหนุ่มเสนอแนวคิดว่ามัมมี่ตนนี้อาจจะเป็นมนุษย์ที่มีขนาดร่างกายเล็กผิดปกติ และอาจจะเกี่ยวข้องกับซากร่าง “อาตา” แห่งชิลีที่ตกเป็นข่าวเพราะมีรูปร่างแปลกประหลาดที่ชวนให้คิดว่าน่าจะเป็นซากร่างของเอเลี่ยน เมื่อปี 2546

กีฆาร์โร ชี้ว่ามนุษย์เผ่าพันธุ์โบราณนี้เป็นพวกที่มีรูปร่างเล็กมาก พวกเขาอาศัยอยู่ในถ้ำและจะออกมาข้างนอกเฉพาะตอนกลางคืน จึงทำให้ดวงตาของพวกเขามีลักษณะแปลกและไม่เหมือนดวงตาของมนุษย์ทั่วไป 

เพื่อนชาวพื้นเมืองของ กีฆาร์รา จากเผ่าไอมาราแห่งเปรูบอกเขาว่า มนุษย์ตัวเล็กเผ่านี้เคยใช้ชีวิตร่วมกับชาวไอมารามาก่อนที่ชาวสเปนเดินทางมาถึงดินแดนอเมริกาใต้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาประมาณ 800 ปีก่อน 

เขายังกล่าวอ้างถึงนักวิจัยที่ชื่อว่า กิลดา โมรา จากโคลอมเบีย ว่าเธอพบข้อมูลเกี่ยวกับมนุษย์แคระเผ่านี้ในช่วงที่ชาวสเปนเริ่มออกสำรวจและยึดครองพื้นที่แถบอเมริกาใต้ เขากล่าวว่าจนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีหลักฐานการกล่าวอ้างถึงคนในเผ่านี้จากชื่อสถานที่ที่เรียกว่า ‘El cerro de los enanos’ (เนินเขาแห่งคนแคระ) ในโคลอมเบีย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เข้าไปได้ยากมาก

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นักวิจัยหลายคนมองว่าแนวคิดของมัมมี่อาตาเป็นเรื่องเหลวไหล ในปี 2561 ศาสตราจารย์ เซียน ฮัลโครว์ นักมานุษยวิทยาวัฒนธรรมจากมหาวิทยาลัยโอทาโกแห่งนิวซีแลนด์ ได้เผยแพร่บทความวิจารณ์กลุ่มคนที่เชื่อว่ามัมมี่อาตาเป็นมัมมี่เอเลี่ยน 

เขาระบุว่าเมื่อประเมินความยาวของมัมมี่ตนนี้ ก็สันนิษฐานได้ว่าเป็นซากร่างตัวอ่อนที่มีอายุราว 15 สัปดาห์ เมื่ออาศัยข้อมูลนี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าโครงกระดูกดังกล่าวคือทารกมนุษย์อายุไม่ถึง 4 เดือนที่ตายก่อนคลอด 

ด้วยเหตุนี้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่ปักใจเชื่อเรื่องเอเลี่ยนจึงมองว่ามัมมี่ที่เพิ่งค้นพบร่างนี้ คือตัวอ่อนของมนุษย์ที่ตายตั้งแต่ยังคงอยู่ในครรภ์มารดามากกว่า

ที่มาและเครดิตภาพ : ladbible.com