จากนี้ 2 สส.ก็ต้องเร่งหาพรรคใหม่สังกัดให้ได้ภายใน 30 วัน ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะย้ายไปเข้าสังกัดพรรคไหน และจะมีใครอ้าอกรับบ้าง ในส่วนของ “ปูอัด” บอกว่ามีคนมาทาบทามทั้งซีกฝ่ายค้านและรัฐบาล ส่วน “สส.แจ้” ขึ้นรูปโปรไฟล์มูฟออนบนเฟซบุ๊กแต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะเข้าสังกัดพรรคไหนเช่นกัน  

อย่างไรก็ตามในส่วนของ สส.แจ้” ได้ทิ้งบอมบ์ลูกใหญ่ไว้ให้พรรคก้าวไกล กรณี “ผู้ช่วย สส.” ของ เบญจา แสงจันทร์”  สส.บัญชีรายชื่อ และ กรรมการบริหารพรร เข้าไปมีเอี่ยวผลประโยชน์โครงการบ่อขยะในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี และได้ยื่นเรื่องให้พรรคสอบตั้งแต่ 4 เดือนที่แล้ว แต่ไม่คืบหน้าเป็นการซุกขยะไว้ใต้พรม  ซ้ำตัวเองมาโดนขับออกจากพรรคเพราะเชื่อมโยงกับประเด็นนี้หรือไม่ ขณะที่ ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกล รีบออกมากางปีกป้อง เบญจา” ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้  พรรคกำลังเร่งสอบกรณีดังกล่าว และต้องแยกแยะกับกรณีคุกคามทางเพศ  

หลังจากปัดกวาดปัญหาภายในพรรค ซึ่งไม่ชัดว่าจะซุกเข้าใต้พรมเหมือนที่สาวไส้กันเองหรือไม่ ก็บังเอิญเกิดเหตุให้ทีมงานก้าวไกลได้ออกแอ๊คชั่นกลบกระแสฉาวที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมานานนับเดือน จนทำพรรคเสียรังวัดไม่ใช่น้อย เริ่มจากเหตุรถบรรทุกน้ำหนักเกินตกหลุมกลางถนนสุขุมวิท ที่ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาฟาดเรื่อง ส่วยรถบรรทุก” อีกรอบ จนตำรวจต้องเก้าอี้ร้อนไปตามๆ กันหลังจากเรื่องนี้เงียบไปนาน  

ตามติดด้วย “ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาชกข้ามรุ่นกับ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี หลังแถลงรายละเอียดเรื่องการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อนำมาแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ว่าสุดท้ายจะไม่มีใครได้เงิน เพราะโครงการจะถูกทำแท้งโดยศาลรัฐธรรมนูญซ้ำรอย พ.ร.ก.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทในอดีตของ พรรคเพื่อไทย (พท.) 

จนถูก เสี่ยนิด” ซัดกลับว่าอย่าเอามาตรฐานความคิดของตัวเอง มองเป็นมุมการเมือง มาทำลายสิ่งที่ตั้งใจทำเพื่อประชาชน ส่วน “ไหม” ก็ตอกกลับว่านายกฯ “ตรรกะวิบัติ” ตีความผิดๆ ว่าหากทุ่มเทแรงกายใจทำอะไรสักอย่างแล้ว ย่อมถูกต้องดีงาม ฝั่งบรรดาลูกหาบพรรคเพื่อไทยก็ออกมาช่วยอุ้มนายกฯ รุมถล่มสาวไหมไม่ยั้ง พร้อมยืนยันว่าจะลุยดันร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านเข้าสภา และอย่ามายัดเยียดความกลัวให้ประชาชน  

โชคดีที่ช่วงนี้อยู่ระหว่างปิดสมัยประชุมสภา แต่เชื่อว่าเรื่องนี้จะลากยาวไปจนถึงเปิดประชุมในช่วงกลางเดือน ธ.ค.นี้  ซึ่งเป็นทางวิบากของ รัฐบาลเศรษฐา” ในการเข็น พ.ร.บ. กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อขอความเห็นชอบจาก สส.ผู้ทรงเกียรติ และก่อนหน้านั้นยังต้องผ่านด่านถกร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี  2567 ดังนั้นแค่คิดก็ปาดเหงื่อแทนนายกฯ ที่อุตส่าห์ใจร้อนแถลงผลงาน 2 เดือน เรียกว่าการเมืองขั้นต่อไปสุดซี้ด ต้องจับตาดูพรรคเพื่อไทยจะเอาตัวรอดอย่างไรกับเกมฝ่ายค้านของพรรคก้าวไกลที่สวมบท ปะ ฉะ ดะ ไม่ไว้หน้าใครนับจากนี้.