รายงานข่าวจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตามที่ ตลท. ได้มีการประกาศให้หุ้นสามัญของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน 2 เหตุ ได้แก่ กรณีงบการเงินประจำปี 2565 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี ปรากฏส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ และกรณี STARK เปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จในงบการเงิน

ต่อมาได้ปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า STARK ยังไม่ได้นำส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2566 สิ้นสุด 31 มีนาคม 2566 มายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในระยะเวลาที่กำหนด (คือ ล่าช้าเกินกว่า 6 เดือนนับจากวันที่ 15 พฤษภาคม 2566) อันเป็นเหตุให้หุ้นสามัญของ STARK เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติมตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่อง การเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2564 ข้อ 7 (2) และ (4) ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงประกาศให้หุ้นสามัญของ STARK มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติมอีก 1 เหตุ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566

ดังนั้น ในปัจจุบัน หุ้นสามัญของ STARK จึงมีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนรวมทั้งสิ้น 3 เหตุ และมีกำหนดระยะเวลาดำเนินการในแต่ละเหตุ ดังนี้

กรณีเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จในงบการเงิน : มีกำหนดเวลาแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนถึงภายในวันที่ 31 มีนาคม 2567 

กรณีไม่นำส่งงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2566 : มีกำหนดเวลาแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนถึงภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568

กรณีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ : มีกำหนดเวลาแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนถึงภายในวันที่ 19 มิถุนายน 2569

ทั้งนี้ STARK มีหน้าที่ต้องดำเนินการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนดังกล่าวข้างต้นให้หมดไปและดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายภายในกำหนดระยะเวลาของแต่ละเหตุ ซึ่งเมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว หาก STARK ยังไม่สามารถแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนให้หมดไปได้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจพิจารณาดำเนินการเพิกถอนหุ้นสามัญของ STARK ต่อไป