เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่พรรคก้าวไกล นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เปิดบรรยายสาธารณะในหัวข้อ “ประเทศไทยควรได้อะไร หากต้องใช้ 5 แสนล้าน” โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า หากดูจากตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยเติบโตทุกปี แต่โตในอัตราต่ำ โตช้ากว่าเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน รวมถึงมีปัญหาความเหลื่อมล้ำสูงขึ้นทุกปี หากเราจะต้องใช้เงิน 5 แสนล้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การอัดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นการบริโภค จะไม่สามารถดันเศรษฐกิจให้โตขึ้นได้อย่างยั่งยืน แต่จำเป็นต้องสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศอย่างเป็นระบบ ในขณะเดียวกัน ต้องแก้ปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่ง คือคนไม่มีงานทำ โจทย์หลักจึงอยู่การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และการสร้างงานให้คนมีงานที่มั่นคงทำ

นายธนาธร กล่าวว่า ดังนั้นถ้าตนมี 5 แสนล้านบาท ตนอยากทำเรื่องต่างๆ เหล่านี้เพื่อให้ประเทศไทยไปข้างหน้า ขณะเดียวกันต้องตอบโจทย์ 2 ข้อ คือคนต้องมีงานทำ และประเทศไทยแข่งขันกับโลกได้ โดยหากมีเงิน 5 แสนล้าน สิ่งที่ควรจะทำก็คือการกระจายเงินไปลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 5 ด้าน นอกเหนือจากงบประมาณประจำที่รัฐต้องจ่ายอยู่แล้ว โดย 5 ด้านที่ว่านี้ ได้แก่ การสาธารณสุข สร้างระบบแพทย์ทางไกล หรือเทเลเมดิซีน ทั่วประเทศ 60,900 ล้านบาท การคมนาคม รถเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัด 88,000 ล้านบาท น้ำประปาดื่มได้ทั่วประเทศ 67,000 ล้านบาท การศึกษาลงทุนเพิ่มศักยภาพโรงเรียน 121,000 ล้านบาท และจัดการขยะอย่างถูกสุขลักษณะทั่วประเทศ 120,000 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 456,900 ล้านบาท

นายธนาธร กล่าวอีกว่า ถ้าเราจะทำให้ประเทศไทยแข่งขันกับโลกได้มีทางเดียวคือเทคโนโลยี ไม่มีทางอื่น และถ้าเราไม่พัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้ อีก 10-20 ปี เราก็ต้องซื้อเทคโนโลยีจากต่างประเทศอยู่ร่ำไป เรามีโอกาสแปรเปลี่ยนปัญหาของสังคมมาเป็นความต้องการ เอาเงินภาครัฐมาสนับสนุนสร้างความต้องการนี้ สร้างอุตสาหกรรมใหม่ๆ ขึ้นเพื่อให้มีการจ้างงานในประเทศ เพื่อให้มีความรู้มีเทคโนโลยีในประเทศไทย เพื่อให้ประเทศไทยแข่งขันกับโลกได้ ใน 3, 5 หรือ 10 ปีข้างหน้า ไม่มีเทคโนโลยี ไม่มีทางเป็นประเทศที่เจริญได้ ไม่มีทางเป็นประเทศที่ร่ำรวยได้

นายธนาธร กล่าวต่อว่า สุดท้ายเราใช้งบประมาณปกติได้หรือไม่ ถ้าจำนวนที่ต้องใช้คือ 4 แสนกว่าล้านบาท ข้อเสนอของตนคือ สิ่งที่ตนพูดมาไม่มีทางทำได้ภายในปีงบประมาณเดียว ตนคิดว่ามองด้วยความเป็นจริง สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ตนคิดว่า 8 ปี เป็นไปได้ 2 สมัย เป็นไปได้ค่อยๆ ทำ ทั้งในเรื่องการแพทย์ทางไกล น้ำประปาดื่มได้ ระบบคมนาคมสาธารณะ การจัดการขยะอย่างเป็นมาตรฐานสากล ยกระดับการศึกษาทั่วประเทศ เมื่อคิดอย่างนั้นแล้ว 4 แสนกว่าล้าน หาร 8 ออกมา ไม่แพง ถ้าเราค่อยๆ ทำ โดยใช้งบประมาณปกติใน 8 ปี ปีละ 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่พอหาได้จากงบลงทุนต่างๆ เลิกตัดถนนในเส้นทางที่ไม่จำเป็น กลับมาลงทุนในสิ่งที่มันสำคัญกับชีวิตของเราจริงๆ ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานที่เราอาจมองไม่เห็น แต่จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเราอย่างมหาศาล

“สิ่งที่ผมอยากเห็นคืองบประมาณถูกลงทุนกับสิ่งที่สำคัญกับชีวิตประชาชนจริง และทำให้ชีวิตดีขึ้นอย่างจับต้องได้ ถ้าจะต้องใช้เงิน 4-5 แสนล้านบาท ตนอยากใช้อย่างนี้ ใช้เพื่อแก้ปัญหาให้คน ใช้เพื่อให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ ใช้เพื่อให้ลูกหลานเรามีงานทำ ใช้เพื่อให้เรามีเทคโนโลยีที่เป็นของเราเอง ส่วนใช้งบประมาณปกติได้หรือไม่นั้น ใช้ได้ เพราะอย่างไรไม่มีทางทำทุกอย่างเสร็จภายในปีเดียวอยู่แล้ว ต้องทยอยทำอยู่แล้ว ใช้งบประมาณปกติหั่นปีละ 5-6 หมื่นล้านบาท อาจจะใช้เวลา 7-10 ปี แต่สังคมไทยที่ดีกว่านี้เป็นไปได้ เราทำได้ สุดท้ายสิ่งที่ผมฝากไว้คือ อยากให้ทุกคนมีความหวัง เชื่อมั่นว่าประเทศไทยที่ดีกว่านี้เป็นไปได้ และมาสร้างมันร่วมกัน” นายธนาธร กล่าว.