เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ รองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงความคืบหน้าการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ ( กทม.) หรือที่เรียกกันว่า “กทม.แซนด์บ็อกซ์” ว่า พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าฯ กทม. รายงานต่อที่ประชุม ศปก.ศบค. ว่ายังไม่ได้กำหนดวันเปิด “กทม.แซนด์บ็อกซ์” เพราะต้องมีจำนวนคน กทม.ได้รับวัคซีนเข็ม 2 เกิน 70% และทิศทางการติดเชื้อรายวันต้องลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งต้องพิจารณาเรื่องศักยภาพเตียงรองรับหากพบการติดเชื้อจำนวนมาก พร้อมยอมรับ กทม.หารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องและภาคเอกชน อาทิ ผู้ประกอบการร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ขนส่งสาธารณะ ในเรื่องการเตรียมเปิดเมือง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสิ่งสำคัญคือประชาชนต้องปลอดภัย และต้องมีศักยภาพที่สามารถรองรับหากเกิดกรณีพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนทั้งนี้ ในวันที่ 22 ก.ย. กทม. เตรียมประชุมผ่านระบบทางไกลร่วมกับทีมจังหวัดภูเก็ต ที่ได้ทำโครงการต้นแบบ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”

รองโฆษก ศบค. กล่าวว่าส่วนพื้นที่อื่นๆ อาทิ จ.เชียงใหม่ ในช่วงเดือน พ.ย.จะมีจำนวนประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มเกิน 70% ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า จ.เชียงใหม่ มีอัตราการพบผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลงอย่างต่อเนื่องดังนั้น การพิจารณาให้ จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่นำร่องสำหรับการท่องเที่ยวจึงมีความเป็นไปได้ ขณะที่ จ.ชลบุรี กรมควบคุมโรครายงานว่าแม้มีอัตราการติดเชื้อสูงแต่หากพิจารณาเป็นรายอำเภอพบแต่ละอำเภอ มีอัตราการติดเชื้อแตกต่างกันดังนั้น การพิจารณาเป็นพื้นที่นำร่องสำหรับการเปิดให้ท่องเที่ยวจะต้องเลือกเป็นบางอำเภอ เลือกระดับตำบลหรือเลือกพื้นที่ย่อยสำหรับการเปิดเมืองวิถีใหม่ตามมาตรการ COVID Free Setting ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดหลักเกณฑ์ต้องระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชนในอำเภอนั้นหรือตำบลนั้นๆ ครบ 80% หรือกิจการที่จะเปิดได้พนักงานต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบ 100% โดยเป้าหมายเดือน ต.ค.เป็นการระดมฉีดวัคซีนทั่วประเทศ วันนี้จะเห็นอัตราฉีดเกิน 800,000 โด๊สต่อวันทุกจังหวัด จะมีอย่างน้อย 1 อำเภอที่ประชากรรับวัคซีนเข็ม 1 ครอบคลุม 70%

พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่ากระทรวงสาธารณสุข จะนำเสนอมาตรการต่างๆ เข้าสู่ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 27 ก.ย.ทั้งนี้ขอเน้นย้ำว่าทุกผู้ประกอบการจะไม่ถูกหลงลืม โดยในที่ประชุม ศปก.ศบค.ได้นำข้อเสนอต่างๆ จากผู้ประกอบการกลุ่มต่างๆ มาพูดคุย อาทิ โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิง เพียงแต่ตอนนี้ขอให้เป็นการทยอยเปิดกิจการที่เป็นไปอย่างมั่นคง และปลอดภัย ใครพร้อมเปิดก่อน แต่ถ้ายังไม่พร้อมไม่ต้องรีบ หากอำเภอไหนพร้อมแล้วทำได้ แต่ถ้ายังไม่พร้อมขอให้รอก่อน ทั้งนี้หากทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือ และทำค่อยเป็นค่อยไปได้อย่างนี้ในระยะยาว เราจะผ่านวิกฤตินี้ไปได้แน่นอน.