วานนี้ (24 พ.ย. 2566) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สถาบันวิจัยทางทะเล ชมิดท์โอเชียน เผยภาพแผนที่ของภูเขาใต้ทะเลที่เชื่อว่ามีความสูงยิ่งกว่าอาคารเบิร์จคาลิฟา แห่งมหานครดูไบ ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกถึง 2 เท่า

ตามข้อมูลของอาคารเบิร์จคาลิฟาหรือบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ ระบุว่าตึกนี้มีความสูง 828 เมตร สร้างเสร็จเมื่อปี 2552 และเป็นสิ่งก่อสร้างจากฝีมือมนุษย์ที่สูงที่สุดในโลก ณ เวลานี้

ภูเขาใต้ทะเลที่มีการค้นพบใหม่นี้มีความสูง 5,249 ฟุต หรือเกือบ 1,600 เมตร กินอาณาบริเวณก้นมหาสมุทรแปซิฟิกราว 5.4 ตารางไมล์ (ราว 2.5 ตารางกม.) ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งของเขตเศรษฐกิจจำเพาะกัวเตมาลาราว 84 ไมล์ทะเล ความสูงของมันอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางของน่านน้ำสากล ทำให้ไม่เคยมีผู้ใดค้นพบมาก่อน

ภาพจากการสร้างแผนที่ภูเขาไฟใต้ทะเลลูกใหม่ซึ่งมีความสูงถึง 1,600 เมตร

ผู้อำนวยการโจติกา วิร์มานิ แห่งสถาบันชมิดท์โอเชียน กล่าวในการแถลงข่าวว่า เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่ได้อยู่ในยุคสมัยที่มีเทคโนโลยีช่วยให้มนุษย์สามารถทำแผนที่ของโลกและได้เห็นส่วนที่ไม่เคยพบมาก่อน โดยการค้นพบภูเขาลูกนี้เกิดขึ้นระหว่างการสำรวจเพื่อสร้างแผนที่ของพื้นที่ก้นมหาสมุทร

องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติอธิบายว่า ภูเขาใต้ทะเลส่วนใหญ่จะเริ่มจากการเป็นภูเขาไฟมาก่อน ส่วนใหญ่ภูเขาที่ใต้ผืนทะเลมักจะเป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว ปกติจะมีรูปทรงเหมือนกรวย แต่ลักษณะของยอดเขาหรือปล่องไฟในอดีตเป็นที่ราบขนาดใหญ่ 

คาดว่า ภูเขาใต้ทะเลที่มีความสูงไม่ต่ำกว่า 1,000 เมตรนั้นมีอยู่มากกว่า 100,000 ลูก แต่มีเพียง 0.1% ของจำนวนเหล่าน้ีที่เคยมีผู้เข้าไปสำรวจ

ภูเขาใต้ทะเลลูกใหม่ที่มีการค้นพบในครั้งนี้มีรูปร่างตรงตามลักษณะของภูเขาไฟทั่วไป กล่าวคือมีฐานทรงกลมและเรียวขึ้นสู่ยอดเป็นแนวสูงชัน มียอดเขาเป็นพื้นที่ราบ ซึ่งบ่งบอกว่าผ่านการปะทุและระเบิดมาแล้วในอดีต

ภูเขาลูกนี้ตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่าแอ่งกัวเตมาลา (Guatemala basin) ซึ่งคาดว่าก้นมหาสมุทรแถบนี้มีอายุเก่าแก่ราว 20 ล้านปีและไม่น่าจะมีภูเขาไฟที่ยังปะทุอยู่ใต้น้ำหลงเหลืออยู่อีกแล้ว

ที่มา :  miamiherald.com

เครดิตภาพ : Schmidt Ocean Institute