เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิลาลัย รอง ผบก.ปอท. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.2 บก.ปอท. และ พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ปอท. แถลงข่าวผลการปฏิบัติการกวาดล้างผู้ค้าอาวุธปืนผ่านโซเชียล พ.ต.อ.พรศักดิ์ เปิดเผยว่า การระดมเจ้าหน้าที่และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกวาดล้างการจำหน่ายอาวุธปืนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ครั้งนี้ได้ดำเนินการ 3 มิติ มิติแรกได้ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 21 จุดในกรุงเทพฯ, ปทุมธานี, นนทบุรี, สมุทรสาคร, สมุทรปราการ, พระนครศรีอยุธยา, ชลบุรี, อุดรธานี, พิจิตร, เชียงใหม่, กาญจนบุรี และนครศรีธรรมราช จับกุมผู้ต้องหาได้ 7 คน พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาดต่างๆ 9 กระบอก แบลงค์กัน 3 กระบอก ปืนไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก กระสุนหลายขนาดรวม 110 นัด และอุปกรณ์เก็บเสียง ลำกล้อง ชุดลั่นไก กว่า 22 ชิ้น จึงแจ้งข้อหา “มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ทั้งนี้หนึ่งในเป้าหมายของเจ้าหน้าที่ คือ นายอภิเชษฐ์ จิตเหิม อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 999/2566 ลงวันที่ 24 ต.ค. ข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมตรวจยึดของกลางดัวกล่าวเอาไว้ได้ ซึ่งผู้ต้องหารายสุดท้ายเกี่ยวพันกับคดีเด็กชายอายุ 14 ปี กราดยิงในห้างพารากอน โดยเป็นคนขายส่งกระสุนปืนให้หลังเด็กชายได้สั่งซื้อกระสุนปืนกับผู้ต้องหากลุ่มแรกที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ในขนาด 9 มม. แต่เมื่อซื้อมาแล้วไม่สามารถใช้งานได้ จึงได้มีการสั่งกระสุนกับนายอภิเชษฐ์อีกครั้งในขนาด .38 และกระสุนถูกจัดส่งมาในช่วงเช้าวันที่ 3 ต.ค. ก่อนที่ในช่วงเย็นจะเกิดเหตุ เบื้องต้นเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา

พ.ต.อ.เนติ กล่าวว่า มิติที่สองได้ปฏิบัติการขยายผลจับกุม10 คนร้ายคดีฉ้อโกงด้วยการหลอกลวงขายอาวุธปืน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งมีผู้เสียหาย 180 คน สูญเงินกว่า 6.5 แสนบาท โดยจับกุมได้ 8 ราย 5 รายรับสารภาพว่า เป็นคนสร้างเพจเฟซบุ๊ก/ทวิตเตอร์ ประกาศขายอาวุธปืน, แบลงค์กัน, ปืนปากกา, เครื่องกระสุนปืน ขึ้นมา เพื่อหลอกลวงประชาชนที่มีความสนใจเกี่ยวกับอาวุธปืน ขณะที่ผู้ต้องหาอีก 3 รายรับสารภาพว่า รับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) เพื่อรับโอนเงินจากการกระทำความผิดให้กับขบวนการดังกล่าว

พ.ต.ท.นิธิ กล่าวว่า ส่วนมิติที่ 3 เป็นปฏิบัติการปิดกั้น URL ที่มีการประกาศขายอาวุธปืนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งในเดือนพ.ย. ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. ได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อปิดกั้นเว็บเพจเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ ที่มีการประกาศขายอาวุธปืน, แบลงค์กัน, ปืนปากกา, ปืนไทยประดิษฐ์ และเครื่องกระสุนปืน ได้ทั้งสิ้น 146 URL แบ่งเป็น URL Facebook จำนวน 48 URL และ URL Twitter จำนวน 98 URL

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้ติดตามตัวผู้ร่วมกระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป.