เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ อาคารเอ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รอง อธิบดีดีเอสไอ และรักษาราชการแทน อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษก ดีเอสไอ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ และในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. จากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และนายวิทยา นีติธรรม ผอ.กองกฎหมาย และในฐานะโฆษก ปปง. ร่วมกันแถลงความคืบหน้าทางคดีสำคัญ 3 คดี โดยมีคดีทุจริตโกงหุ้น STARK และคดีปั่นหุ้น MORE รวมอยู่ด้วย

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ทั้ง 3 คดีถือเป็นความผิดตามมูลฐานการฟอกเงิน ตนจึงได้เชิญโฆษก ปปง. มาร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการยึดและอายัดทรัพย์สิน สำหรับคดีโกงหุ้นสตาร์คนั้น คณะพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว และได้มีมติเอกฉันท์สั่งฟ้องผู้ต้องหา 11 ราย ต่อพนักงานอัยการ เป็นเอกสาร 22 ลัง 140 แฟ้ม 52,968 แผ่น ตามความผิดแห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชน รวมถึงความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยมีผู้เสียหายกว่า 4,704 ราย มูลค่าความเสียหาย 4,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เรายังได้มีการแยกสำนวนไว้เป็นอีก 1 สำนวน เนื่องจากผู้ต้องหายังไม่ครบ ยังมีเพิ่มเติมไว้สอบสวนอีก หมายความว่า หากเงินกระจายไปยังที่อื่น และถ้าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการระดมทุนและถ่ายโอนไปยังบุคคลใด อีกทั้งถ้ามีเจตนารู้ว่าทรัพย์ได้มาจากความผิดดังกล่าว ปปง. ก็จะต้องไปยึดอายัดทรัพย์ในส่วนนั้น และดีเอสไอก็จะดำเนินการพิจารณาความผิดทางอาญาฐานฟอกเงินด้วยเช่นเดียวกัน

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวอีกว่า สำหรับสาเหตุของการดำเนินคดีนั้น พนักงานสอบสวนได้พบเส้นทางการเงินที่มีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันและยังพบว่าภายหลังการระดมทุนหุ้นกู้และหุ้นเพิ่มทุน 15,000 ล้านบาท ได้มีการถ่ายโอนไปยังบริษัทลูกหลายทอด และมีพฤติกรรมวนเงินกลับมาเพื่อชำระหนี้ที่สร้างไว้ จึงเป็นการกระทำความผิดที่นำเงินกลับเข้ามาหมุนเวียนในบริษัท ซึ่งช่องเบาะแสเหล่านี้ ดีเอสไอได้ส่งให้ ปปง. เพื่อดำเนินการตรวจสอบว่าเงินจำนวนนี้ได้ถูกถ่ายโอนหรือชำระหนี้ไปที่ไหนอย่างไร เพื่อจะได้ติดตามทรัพย์กลับมาชดเชยให้แก่ผู้เสียหายที่เข้าขอรับการคุ้มครองสิทธิ

ขณะที่นายวิทยา นีติธรรม โฆษก ปปง. กล่าวว่า จากเดิมเรายึดทรัพย์ไปแล้ว 350 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของกลางในคดีดีเอสไอ เพื่อนำมาต่อยอด แต่มันยังมีทรัพย์สินอีกชุดที่ทาง ก.ล.ต. ได้ใช้อำนาจอายัดไว้ชั่วคราวหลักพันล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบทรัพย์สินว่าเป็นรายการใดบ้างและเป็นของบุคคลใดบ้าง คาดว่าในวันที่ 9 ม.ค.67 จะมีความคืบหน้าเพิ่มเติม ส่วนทรัพย์สินที่ถูกถ่ายโอนไปยังต่างประเทศนั้น เรามีกระบวนการในการติดตามอยู่ ซึ่งไม่สามารถระบุปลายทางของทรัพย์สินได้ เพราะทรัพย์อาจมีการเคลื่อนย้ายหนี ทั้งนี้ ในวันอังคารที่ 19 ธ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. สำนักงาน ปปง. จะมีการแถลงข่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการติดตามยึดอายัดทรัพย์สินในส่วนของคดีสตาร์ค และคดีอื่นๆ

ทั้งนี้ สำหรับคดีปั่นหุ้นมอร์ (MORE) พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ในคดีหุ้น MORE ของ บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) ขณะนี้ ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาแล้ว 10 ราย จากทั้งหมด 32 ราย และกำลังทยอยเรียกที่เหลือมารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมทั้งยังอยู่ระหว่างเร่งรัดตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม คาดเสร็จสิ้นราวสิ้นเดือน ก.พ. 67 และจะส่งเรื่องให้อัยการ ส่วนของการอายัดทรัพย์สินนั้น นายวิทยา โฆษก ปปง. กล่าวว่า สำหรับคดีปั่นหุ้นมอร์ ทาง ปปง. ได้ยึดอายัดทรัพย์สินแล้ว 5,395 ล้านบาท ตอนนี้ได้ส่งเรื่องไปที่ศาลแพ่งทั้งหมด เพื่อพิจารณาว่าทรัพย์สินที่ยึดมาดังกล่าวได้รับจากการกระทำความผิดหรือไม่ และผู้เสียหายจะมีสิทธิได้รับการคุ้มครองหรือไม่.