เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงเคสผู้ป่วยที่ไม่เคยมีประวัติ แต่กลับพบว่าเป็นวัณโรค

โดยระบุว่า “ผู้ป่วยชายอายุ 69 ปี มีไข้ต่ำๆ ตอนบ่าย ไอมีเสมหะสีขาวไม่มีเลือดปน เหนื่อย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด 12 กิโลกรัมใน 1 เดือน เป็นโรคความดัน เคยสูบบุหรี่ หยุดสูบ 45 ปี ในบ้านไม่มีใครป่วยเป็นวัณโรค” ตรวจร่างกายฟังปอดผิดปกติ เอกซเรย์ปอดมีฝ้าขาวทั้งสองข้าง

เก็บเสมหะส่งย้อมเชื้อพบวัณโรค 1+ ตรวจรหัสพันธุกรรมพบเชื้อวัณโรคไม่ดื้อยาริแฟมพิซิน เพาะเชื้อขึ้นวัณโรคไวต่อยาไอโซไนอะซิด ริแฟมพิซิน และอีแธมบูทอล

สรุป: เป็นวัณโรคปอดชนิดไม่ดื้อยา ได้เริ่มยาไอโซไนอะซิด ริแฟมพิซิน พัยราซินาไมด์ และอีแธมบูทอล หลังกินยาวัณโรค 2 สัปดาห์ ผู้ป่วยคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ค่าเอนไชม์ตับขึ้นสูง SGOT 312, SGPT 199
สงสัยแพ้ยาริแฟมพิซินทำให้ตับอักเสบ ได้หยุดยาริแฟมพิซิน ให้ยามอกซิฟลอกซาซิน (Moxifloxacin) แทนยาริแฟมพิซิน ค่าเอนไชม์ตับลดลง SGOT 57, SGPT 36

ให้กินยาวัณโรคไอโซไนอะซิด พัยราซินาไมด์ อีแธมบูทอล และมอกซิฟลอกซาซิน ต่อเนื่อง 1 ปี ไม่ไอ อยากอาหาร น้ำหนักขึ้น 14 กิโลกรัม เอกซเรย์ปอดดีขึ้นมาก หลังหยุดกินยา 4 ปี วัณโรคไม่กลับมาใหม่ เอกซเรย์ปอดยังมีร่องรอยวัณโรคเก่าบ้าง

“วัณโรคปอดยังเป็นปัญหาที่พบบ่อยในประเทศไทย บางคนกินยาแล้วแพ้ ต้องมีการปรับสูตรยา โรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้”..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC