โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการใช้“อาวุธปืน” สืบเนื่องจากปีที่ผ่านมาเกิดความสูญเสียใหญ่หลายเหตุการณ์ ดังนั้น การวิเคราะห์ คาดการณ์ถึงแนวโน้มอาชญากรรมที่มาจาก“คมกระสุน”จึงเป็นสิ่งที่หลายคนอยากรู้

“ทีมข่าวอาชญากรรม” มีโอกาสสอบถาม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะแม่ทัพงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม สะท้อนภาพสถานการณ์ไปจนถึงอุปสรรคปัญหาการกวาดล้างที่ไม่อาจสิ้นซากได้ง่ายๆ โดยเริ่มต้นชี้ว่าปัญหาอาวุธปืนเถื่อนกับการก่ออาชญากรรม แม้ปี 2566 จะลดลงเมื่อเทียบกับปี 2565 เนื่องจากการบังคับใช้กฎหมายและระดมกวาดล้างต่อเนื่อง แต่ก็ยังคงปรากฎภาพการก่อเหตุจากปืน ในจำนวนนี้บางคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญจนสร้างความหวาดระแวง เพราะอาวุธที่นำมาใช้มีทั้งปืนสงคราม ปืนเถื่อน ปืนประดิษฐ์เอง

เทคโนโลยีสื่อสาร อุปสรรคล้างบาง

เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่มีการติดต่อสื่อสารได้สะดวกและง่ายขึ้น พล...กิตติ์รัฐ ยอมรับว่าเป็นเหตุให้การลักลอบซื้อขายปืนเถื่อนในตลาดมืด หรือผ่านออนไลน์ กลายเป็นช่องทางที่ทำง่าย-ราคาไม่แพง ประกอบกับข้อจำกัดที่ปืนเถื่อนนั้นยากต่อการสืบสวนจับกุม เพราะไม่ได้จดทะเบียน ต่างจากปืนถูกกฎหมายที่มีทะเบียนและพิสูจน์ทราบตัวเจ้าของได้

ทิศทางขึ้นลงภัยปืน

พล...กิตติ์รัฐ ระบุ ส่วนตัวอยากให้มองจากข้อมูลและความเป็นจริงว่า การเกิดอาชญากรรมมีสาเหตุจากปัญหาด้านเศรษฐกิจ สภาพความแออัดของสังคม ความขัดแย้งทางความคิด การควบคุมอารมณ์ ซึ่งแต่ละพื้นที่มีพื้นฐานภูมิศาสตร์ อุปนิสัย วัฒนธรรม แตกต่างกัน

บางครั้งสาเหตุเพียงเล็กน้อย แต่ใช้กำลัง ใช้อาวุธทำร้ายจนเป็นข่าวก็ทำให้เข้าใจว่าการเกิดอาชญากรรมสูงขึ้น ซึ่งการรับรู้เหตุ เรารับรู้ รับฟัง ข้อมูลข่าวสาร จากสื่อผ่านช่องทางต่างๆทุกวันก็ทำให้คิดว่าเกิดอาชญากรรม หรือฆ่ากันเหมือนเกิดขึ้นมาก ทั้งที่เจ้าหน้าที่ของรัฐก็มีมาตรการปราบปรามและจับกุมผู้กระทำผิด รวมถึงตรวจยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก”

ดังนั้น ต้องไม่ลืมว่านั่นคือการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้ามีมุมมองในภาพรวมทั้งหมดจากที่ไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารแล้ว การคดีที่ใช้อาวุธปืนยังอยู่ในวิสัยที่เจ้าหน้าที่รัฐควบคุม หรือหากเกิดขึ้นก็จับกุมได้เกือบ 100%

ยกตัวอย่าง มีเหตุใช้อาวุธปืนในตำบลหนึ่ง ซึ่งมีหลายสิบหมู่บ้าน ขณะเดียวกันมีข่าวอาชญกรรมจากการใช้ปืนอีกพื้นที่หนึ่ง ต่างสถานที่ ต่างห้วงเวลากัน ก็ทำให้ผู้รับสารเข้าใจว่ามีเหตุใช้อาวุธปืนสูงขึ้น ทั้งที่หากเทียบกับพื้นที่และการเกิดเหตุภาพรวม ถือว่าไม่ได้มากอย่างที่คิด

ตัดวงจรเถื่อนออนไลน์ลักปืนหลวง

ในกลุ่มซื้อขายออนไลน์ (อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และสิ่งเทียมอาวุธปืน) มีระเบียบหลักเกณฑ์ควบคุมการประกอบธุรกิจ ตาม พ.ร.ฎ.การประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ.2565 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว , การกำหนดหลักเกณฑ์การแชร์ข้อมูลสำคัญให้ประชาชนตรวจสอบความถูกต้อง,การดำเนินคดีกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มที่ปล่อยปละละเลยให้มีการโฆษณาขาย, บริษัทขนส่งพัสดุต้องรู้สิ่งของที่นำส่งให้ลูกค้า ต้องสแกนพัสดุ หากพบรู้เห็น หรือปล่อยปละต้องถูกดำเนินคดีด้วย

ส่วนการป้องกันการใช้ปืนหลวงก่อเหตุ พล...กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ตร.กำหนดมาตรการกำกับชัดเจนตั้งแต่ขั้นตอนเบิกมาใช้ในราชการ หรือให้ครอบครองไว้นอกเวลาราชการ ซึ่งอยู่ระหว่างที่ยังไม่นำส่งคืน เมื่อเสร็จสิ้นหน้าที่ หรือการได้รับอนุญาตให้พกประจำตัวก็ให้มีระบบเรียกตรวจเป็นประจำ , กำหนดรูปแบบการจัดเก็บระหว่างปฏิบัติงานในส่วนประเภทปืนที่มีอานุภาพสูงประจำรถยนต์ หน.สายตรวจ หรือชุดปฏิบัติการพิเศษของหน่วย และวิธีพกปืนประจำกาย

รวมถึงให้ตรวจความเหมาะสม ความพร้อมในการเบิกใช้ เช่น ตรวจสุขภาพจิต สารเสพติด การพิจารณาพฤติกรรม หรือความขัดแย้งส่วนตัวที่ไม่สมควรถือ ครอบครองนอกเหนือเวลาปฏิบัติหน้าที่ เป็นต้น ตลอดจนใช้มาตรการ กำกับ สอดส่องพฤติกรรมไม่เหมาะสม หรือสุขภาพจิตไม่มั่นคง เพื่อลดความเสี่ยงเข้าถึงอาวุธ เช่น

ปรับเปลี่ยนหน้าที่ หรือพิจารณาดำเนินการทางวินัย หรืออาญา รวมถึงการรับรักษาอาการ , กำหนดบทลงโทษชัดเจนและรุนแรง โดยพิจารณาเพิ่มระดับโทษทางวินัย, แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอาวุธปืน และกำหนดให้มีรูปแบบบันทึกแสดงหลักฐานในการเบิกจ่าย ส่งคืน โดยเก็บข้อมูลรูปแบบคิวอาร์โค้ด และรายงานไปยังหน่วย ระดับ บก./บช. ตามลำดับ ทำให้สามารถสุ่มตรวจสถานภาพได้ตลอดเวลา

ยังเล็ดรอด ต้องไม่หยุดปราบ

พล...กิตติ์รัฐ ให้ความมั่นใจว่าตำรวจมีทั้งมิติป้องกัน ปราบปราม และทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการตรวจสอบประวัติบุคคลกลุ่มเสี่ยง บุคคลที่ควรเฝ้าระวัง เพื่อทำฐานข้อมูล นำไปวิเคราะห์ สืบสวนหาข่าวแหล่งผลิต /ซุกซ่อน /จำหน่าย ก่อนกำหนดเป้าหมายปิดล้อมตรวจค้น เมื่อจับกุมได้จะสืบสวนขยายผลเชื่อมโยงทั้งบุคคล ขบวนการ อาวุธ และเส้นทางเงิน โดยนำกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์มาใช้

อาทิ นำอาวุธปืนมายิงเก็บปลอกและหัวกระสุน เพื่อตรวจสอบความผิดอื่น รวมถึงเสนอขอถอนใบอนุญาต ความเข้มงวดเหล่านี้ เชื่อมั่นว่าจะเป็นมาตรการที่ทำให้การก่อเหตุอาชญากรรมโดยใช้อาวุธปืนภาพลดลง

แต่ก็เป็นพื้นฐานของความเป็นจริงที่ยังมีบางกลุ่มยังคงลักลอบจำหน่าย ซื้อขาย เพื่อนำอาวุธปืน สิ่งเทียมอาวุธปืน ไปใช้ก่อเหตุ ซึ่งต้องมุ่งมั่นปราบปราม ให้มีความเกรงกลัวต่อกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และไม่กล้าจะกระทำผิด”

อีกด้าน พล...ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ในฐานะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางควบคุมและครอบครอง การจำหน่าย การพกพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และสิ่งเทียมอาวุธปืน สะท้อนว่า พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ของประเทศไทยมีมานานกว่า 70 ปี โดยไม่มีการปรับปรุง

ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยติดตาม และเสนอแนวทางตั้งคณะอนุกรรมการฯเพื่อเสนอกรรมาธิการ สิ่งสำคัญจะเห็นได้จากกราฟของกองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.)ที่พบว่าช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา“แบลงก์กัน”มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ

กราฟเหล่านี้วัดจากสถิติของพฐ. จะเห็นได้ว่าปืนแบลงค์กัน หรือสิ่งเทียมอาวุธปืน พุ่งสูงขึ้นทุกปี เนื่องจากหากนำสิ่งเหล่านี้มาดัดแปลง เปลี่ยนเกลียวลำกล้อง และนำกระสุนเข้ามาใส่ ก็ทำให้เกิดทั้งการสูญเสียชีวิต และทำให้บาดเจ็บได้”

ทั้งนี้ อนุกรรมการบางคนเสนอปรับแก้ให้สิ่งเทียมอาวุธปืน ที่นำไปใช้เป็นอาวุธปืนจริงเข้ามาอยู่ในพ.ร.บ.อาวุธปืนฯด้วย เพราะเห็นได้จากเหตุการณ์เด็กวัย 14 ปี ที่ซื้อปืนผ่านออนไลน์นำไปก่อเหตุจนมีผู้เสียชีวิต ปัจจุบันตำรวจไซเบอร์ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส)ประกาศชัดนโยบายปิดเพจ และกวาดล้างสิ่งเทียมอาวุธปืน และอาวุธปืนผิดกฎหมาย

จะสังเกตได้ว่ากลุ่มบุคคลที่ถือครองอาวุธปืน โดยมีใบอนุญาตในการครอบครองจะไม่มีการก่ออาชญากรรมเลย การก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นปืนไทยประดิษฐ์ สิ่งเทียมอาวุธปืนเสียมากกว่า”

ดังนั้น พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ ทิ้งท้ายว่าหากกฎหมายข้อนี้ผ่าน จะทำให้เกิดความปลอดภัยทั้งชีวิต-ทรัพย์สิน และยังสร้างความสบายใจให้กับเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้างานมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น.

ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน