เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่วัดวิภาวดีรังสิต (เหนือคลอง) หมู่ที่ 7 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี มีพิธีบำเพ็ญกุศลศพ “น้องเดียว” อายุ 21 ปี ชาว อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากก่อเหตุผูกคอตัวเองเสียชีวิตที่บ้านพัก เมื่อวันที่ 12 ม.ค.67 ที่ผ่านมา โดยสาเหตุมาจากถูกหลอกให้ลงหุ้นในแอปออนไลน์ เป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท โดยมีญาติพี่น้องและชาวบ้านมาร่วมไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้เสียชีวิตเป็นลูกชายคนเดียวและกำพร้าบิดา ทั้งนี้ก่อนก่อเหตุ ยังได้ทิ้งจดหมายขอโทษแม่ ที่ทำให้เดือดร้อนด้วย

ด้าน นางบุษบา (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี มารดาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา ลูกชายกำลังศึกษาอยู่วิทยาลัยการอาชีพฯ สาขาคอมพิวเตอร์ ได้ลงหุ้นในแอปพลิเคชัน ซึ่งตนไม่รู้จักมาก่อน ปรากฏว่าระยะแรกได้เงินกลับมาเต็มๆ แต่พอเข้าปีที่ 2 บริษัทเปลี่ยนผู้บริหาร ก่อนเสนอให้มาร่วมลงหุ้นด้วย ลูกชายตัดสินใจลงหุ้น โดยต้องโอนเงินไปให้อยู่เรื่อยๆ จนเงินเก็บที่ได้มาในช่วงแรกหมดไป ทำให้ตนต้องไปกู้ยืมเงินมาให้ลูกชาย โดยก่อนสิ้นปีลูกชายบอกว่า จะได้รับเงินจากการลงหุ้นประมาณ 1 ล้านกว่าบาท ซึ่งเมื่อก่อนเกิดเหตุ ลูกชายได้ไปเช็กยอดเงินปรากฏว่า ไม่มีเงินจำนวนดังกล่าวเข้ามา ทำให้เกิดความเครียด คาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุให้ตัดสินใจจบชีวิต

“…น้องเดียวนำเงินไปลงหุ้นครั้งละ 3 หมื่นบ้าง 4 หมื่นบ้าง 2 หมื่น ถ้าไม่มีให้แม่หายืมให้ และบริษัทแจ้งว่าวันที่ 10 มกราคมจะคืนเงินให้และไม่ทราบว่าติดต่อไม่ได้ แต่เห็นยังหาเงินโอนไปให้บริษัทอยู่มี 1 พัน 2 พันก็โอน ไม่มีเงินแม่ก็ไปกู้ให้ดอกเบี้ยร้อยละ 10-20 ให้น้องเดียวโอนไปให้ ซึ่งเท่าที่กู้ยืมมาเป็นเงินกว่า 1 แสนบาท และยังไม่รวมเงินของตัวเองอีกมาก…” นางบุษบา กล่าว

ด้าน นายสุรินทร์ ธรฤทธิ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านส้อง กล่าวว่า น้องเดียวผู้เสียชีวิตเป็นเด็กดี เรียนเก่งรู้จักทั้งหมู่บ้าน ทราบว่าเว็บออนไลน์ลงทุนดังกล่าวน่าจะอยู่ต่างประเทศ จะเรียกร้องเงินคืนได้อย่างไร และเป็นเงินไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งในพื้นที่ อ.เวียงสระ มีกรณีแบบนี้อีกหลายคน จึงฝากให้ผู้ที่คิดจะลงทุนหรือโอนเงินให้กับใครที่ไม่รู้จัก ขอให้คิดอย่างรอบคอบก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุ น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เขต 3 สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายเจริญศักดิ์ วงศ์สุวรรณ นายอำเภอเวียงสระ เข้ามาเยี่ยมปลอบใจ นางบุษบา ที่วัด ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ไพฑูรย์ กระจะจ่าง ผกก.สภ.เวียงสระ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมขอนำเครื่องคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ไปตรวจสอบข้อมูลการติดต่อ ว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีไหนบ้าง.