เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ตำรวจกองปราบฯ กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ชุดปฏิบัติการ 1 (ตรัง-สตูล) นำโดย พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป พ.ต.ท.สวรรยา เอียดตรง สว.กก.6 บก.ป. และ ร.ต.อ.อนุวัฒน์ ณ ปัตตานี รอง สว. ปรก.กก.6 บก.ป. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ลงพื้นที่ไปติดตามจับกุม นายจิราพัชร์ กังสวรณ์ อายุ 28 ปี หรือ “บอย ดอนขี้เหล็ก” มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ในพื้นที่หมู่ 5 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา ที่ 346/2566 ลงวันที่ 3 ส.ค. 66 ความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” โดยจับกุมได้ที่สวนปาล์มในพื้นที่หมู่ 5 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล หลังจากที่สืบทราบว่าหนีกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.สตูล โดยไปรับจ้างดูแลสวนปาล์มอยู่ในพื้นที่ ต.ควนกาหลง จ.สตูล

โดย นายจิราพัชร์ หรือบอย ดอนขี้เหล็ก เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่มีประวัติโชกโชน เคยติดคุก และก่อเหตุซ้ำซาก ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 66 ได้ไปขโมยโครงเหล็กหลังคาในพื้นที่ สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยขนไปถึง 2 คันรถกระบะ จนถูกออกหมายจับอีกครั้ง และมีภาพจากกล้องวงจรปิดขณะกำลังขนใส่รถกระบะออกไป

จากการสอบสวนรับสารภาพ โดยอ้างว่าที่ทำไปเนื่องจากไม่พอใจเจ้าของบ้านที่พูดจาดูถูกเหยียดหยามตน จึงได้ชักชวนเพื่อนมาร่วมก่อเหตุลักโครงเหล็กบ้านทั้งหลังแล้วนำไปขาย นอกจากนี้ ยังเคยถูกจับกุมในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย และมีไว้เพื่อนำออกมาใช้ซึ่งธนบัตรปลอม ซึ่งตนนั้นรู้อยู่แล้วว่าเป็นธนบัตรปลอม”

โดยเฉพาะคดีที่ใช้ธนบัตรปลอมนั้นใจดำมาก โดยใช้ธนบัตรปลอมใบละ 1,000 บาท หลอกซื้อของที่ร้านขายของชำของหญิงชราตาบอด อายุ 68 ปี ถึง 2,000 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 64 นายจิราพัชร์ หรือบอย ดอนขี้เหล็ก ใช้ธนบัตรปลอมใบละ 1,000 บาท ไปซื้อของที่ร้านขายของชำของ น.ส.เป๊าะ สายสะอิด อายุ 68 ปี ซึ่งพิการทางสายตา โดยตาขวาบอดสนิท ตาซ้ายมองเห็นเลือนราง อยู่ตัวคนเดียวไม่มีครอบครัว อาศัยเปิดร้านขายของชำเล็กๆ หารายได้ไปวันๆ

นอกจากนี้ บอย ดอนขี้เหล็ก ได้นำแบงก์พันปลอมมาหลอกซื้อของวันเดียวถึงสองครั้งซ้อน โดยช่วงเช้ามาซื้อของเป็นเงิน 200 กว่าบาท คุณยายเป๊าะ จึงทอนให้ไป 700 กว่าบาท และครั้งที่สองก็มาอีกในช่วงบ่าย ซื้อของในราคาใกล้เคียงกัน ก็ทอนเงินไป 700 กว่าบาทเหมือนเดิม ซึ่งตอนคุณยายเป๊าะรับเงิน ก็ใช้วิธีนำแบงก์พันมาดูใกล้ๆ ตา ก็เห็นรูปในหลวงรัชกาลที่ 10 ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นของจริง มารู้อีกที เพื่อนบ้านมาขอแลกเงินและบอกว่าเป็นแบงก์พันปลอมทั้งสองใบ

และคดีนี้ตำรวจ สภ.เมืองสงขลา ก็ติดตามจับกุมได้ แต่หลังจากที่พ้นโทษออกมาก็ไม่เข็ดหลาบ ยังก่อเหตุลักทรัพย์ซ้ำๆ อีกหลายคดี สุดท้ายก็ถูกตำรวจกองปราบฯ ติดตามจับกุมตัวอีกครั้ง.