เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ร.ต.อ.ปวริศน์ งามโนนทอง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบวัตถุต้องสงสัยว่าจะเป็นซากเครื่องบินใต้แม่น้ำโขง ช่วงบ้านปากมาง หมู่ 12 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จึงไปตรวจสอบ พร้อมประสาน ร.ต.อ.สุริยัน ทิพสุต รอง สว.กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย หัวหน้าชุดอีโอดี, กู้ภัยประจักษ์, กู้ภัย 191 ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ลงน้ำงมดูชิ้นส่วน สามารถเก็บชิ้นส่วนบางชิ้นขึ้นมาได้ 3 ส่วน คาดว่าจะเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบิน มีตัวเลขระบุไว้ด้านข้าง

เหตุการณ์นี้ชาวบ้านปากมางได้ออกจับปลาในแม่น้ำโขงซึ่งช่วงนี้น้ำโขงลดระดับ ระหว่างที่หาปลาอยู่ปรากฏว่ามีวัตถุบางอย่างติดร่างแหของชาวบ้านจึงได้ตรวจดูก็พบว่าเป็นซากเครื่องบิน มีลักษณะมีใบพัดอยู่ด้านหน้าลำเครื่องบิน ซึ่งยังไม่สามารถนำซากเครื่องบินขึ้นมาจากแม่น้ำโขงได้ ทั้งนี้ชาวบ้านเล่าว่า เมื่อประมาณ 50-60 ปีที่ผ่านมา เคยมีเครื่องบินใบพัดของลาวตกลงในแม่น้ำโขง ณ จุดที่พบในครั้งนี้

ร.ต.อ.สุริยัน ทิพสุต รองสารวัตร กก.สส.ภ.จว.หนองคาย หัวหน้าชุดอีโอดี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่อีโอดีได้ลงไปสำรวจร่วมกับกู้ภัยและชาวบ้าน พบส่วนที่เป็นใบพัด สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นเครื่องบิน รุ่น T28 มีใบพัดอยู่ด้านหน้า ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ใช้ทิ้งระเบิด เป็นเครื่องบินโจมตีในยุคสงครามเวียดนาม สงครามในลาว ไม่พบร่างนักบิน พบโครงหลังคาในห้องนักบิน กระจกแตก ทรายไหลเข้าเต็มห้องเครื่อง ไม่ทราบว่าภายในเครื่องบินจะมีอะไรอยู่บ้าง ช่วงโครงห้องนักบินที่จมอยู่ใต้ผืนทราย ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ จากคำบอกเล่าของชาวบ้านบอกว่าเมื่อ 60 ปีที่แล้ว นักบินลาวบรรทุกระเบิดจะไปโจมตีทางเหนือ บินมาใกล้บ้านริมน้ำโขง ซึ่งเมียนักบินกำลังท้องอยู่ ชาวบ้านสมัยนั้นเล่าว่านักบินขับโฉบลงมาแล้วโฉบไม่ขึ้น เครื่องบินจึงตกลงไปในแม่น้ำโขง ข้อเท็จจริงต้องตรวจสอบอีกครั้ง หลังจากนี้ต้องประสานหน่วยงานผู้เชี่ยวชาญพิจารณาในการกู้ซากเครื่องบินต่อไป.