เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่วัดบ้านปูน อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ณัฎฐ์เดชา ฐานิสภัทราพงศ์ ผกก.สภ.โรงช้าง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ควบคุมตัว นายชาดา หรือสมยศ อายุ 50 ปี และ น.ส.อรุณี อายุ 39 ปี สองผัวเมีย ผู้ต้องหา ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์ขโมยรูปหล่อเนื้อทองเหลือง องค์พญายม ซึ่งตั้งอยู่ที่ลานวัดบ้านปูน นำชี้จุดเกิดเหตุ ประกอบคำรับสารภาพ
พล.ต.ต.โชติวัฒน์ กล่าวว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา มีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุขโมยรูปหล่อองค์พญายม ซึ่งมีขนาดหน้าตักกว้าง 15 นิ้ว น้ำหนัก 50 กิโลกรัม มูลค่า 20,000 บาท ตั้งอยู่ที่ลานวัดไป หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดสืบสวนติดตามคนร้าย โดยพบว่ากล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้าย เป็นชายสวมเสื้อสีเขียว แบบไรเดอร์ขี่รถจักรยานยนต์ มีผู้หญิงซ้อนท้าย เข้ามาจอดที่วัดใกล้องค์พญายม จากนั้นเดินถือพวงมาลัยเข้ามาทำทีเข้ามากราบไหว้ขอพรองค์พระประธาน ก่อนจะเดินวนรอบวัดเพื่อดูลาดเลา เมื่อสบโอกาสผู้ต้องหาได้ช่วยกันยกองค์พญายมใส่กล่องขนาดใหญ่ เพื่ออำพรางและบรรทุกใส่ท้ายรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผลจนทราบผู้ก่อเหตุคือ นายชาดา และ น.ส.อรุณี หลังก่อเหตุได้หลบหนีมุ่งหน้าไปตามถนนสายเอเชีย เข้ากรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ติดตามไปจับกุมตัวสองสามีภรรยาได้ที่หอพักไม่มีเลขที่ ใน จ.ปทุมธานี พร้อมของกลางรูปหล่อองค์พญายมอยู่ในห้องพัก
โดยระหว่างการทำแผน ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงสาเหตุที่ต้องมาก่อเหตุ สองสามีภรรยา อ้างว่า ตอนแรกตั้งใจจะมาทำบุญไหว้พระ แต่บังเอิญจังหวะไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก เมื่อเห็นรูปหล่อองค์พญายมที่ตั้งไว้ จึงยกขึ้นรถจักรยานยนต์แล้วขี่หลบหนีไป มีความจำเป็นที่จะต้องทำเพราะมีลูกเล็ก 2 คน อายุ 4 เดือนกับ 1 ขวบ มีอาชีพขับรถส่งอาหารสินค้า รายได้ไม่เพียงพอ ถามกลับผู้สื่อข่าวว่า “ถ้ามาเป็นตนเองจะทำแบบตนเองหรือไม่ ลูกไม่มีนมกิน กินน้ำแทนไม่ได้”
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อในการให้คำรับสารภาพ เนื่องจากกล้องวงจรปิดจับภาพพฤติกรรมได้ และมีการเตรียมกล่องลังมาใส่รูปหล่อพญายม น่าจะมีการดูลาดเลามาก่อนหน้านี้ จึงได้นำตัว 2 สามีภรรยาส่งพนักงานสอบสวน พร้อมตั้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดและเพื่อพาทรัพย์นั้นไป.
