เมื่อวันที่ 26 ม.ค. จากกรณีชาวบ้านผวาสิงโตอีก หลังหลุดออกมาวิ่งในเขตชุมชน ซอยเขามะกอก 13 หมู่ 4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เบื้องต้นทราบว่าเจ้าของเลี้ยงไว้ 2 ตัว อายุประมาณ 10 เดือน ส่วนสาเหตุที่สิงโตหลุดออกมาเนื่องจากประตูอัตโนมัติขัดข้อง พร้อมทั้งเปิดใจว่า เตรียมขายสิงโตคืนกลับให้กับเจ้าของฟาร์มในพื้นที่ จ.นครปฐม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ลงตรวจสอบบ้านพักในซอยเขามะกอก 13 หมู่ 4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านที่มีการเลี้ยงสิงโต เบื้องต้นพบว่า เป็นสิงโตเพศผู้ (สิงโตสีน้ำตาล) ชื่อว่า อาลัว และเพศเมีย (สิงโตขาว) ชื่อว่า หลินหลิน

โดยเจ้าของ นางสาวภา (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี ได้นำใบแสดงการรับมอบสิงโตจากฟาร์มที่ จ.นครปฐม มาแสดงยืนยัน แต่เจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบปรากฏว่า ไมโครชิพไม่ตรงกัน และเจ้าของยังไม่มีการไปแจ้งครอบครองให้ถูกต้องตามกฎระเบียบ การครอบครองสัตว์ป่าควบคุมประเภท ก. (สิงโต) เจ้าหน้ามีการแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมทั้งขออายัดสิงโตทั้ง 2 ตัว โดยจะต้องทำการยิงยาสลบเพื่อเคลื่อนย้ายไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง (เขาชีโอน) แต่สุดท้ายเจ้าของไม่ยอมเซ็นเอกสารยินยอมให้ทีมสัตวแพทย์ยิงยาสลบ และไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ สุดท้ายต้องมีการยกเลิกภารกิจ พร้อมทั้งรอหมายค้นเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอีกครั้ง

ส่อยาว! เจ้าของ ‘สิงโต’ ฮึดสู้กลับไม่ยอมให้ยึดลูกรัก จ่อขอหมายค้นเข้าบุกพรุ่งนี้

ล่าสุดนางสาวภา (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี เจ้าของสิงโต เริ่มมีท่าทีที่อ่อนลง โดยสาเหตุที่ไม่ยอมให้ยิงยาสลบเพราะกลัวสิงโตจะได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต ประกอบกับเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวเล็กจึงไม่อยากเห็นสัตว์เลี้ยงทรมาน และอยากให้เจ้าหน้าที่มีการเปลี่ยนวิธีในการของเคลื่อนย้าย ขณะที่เจ้าของฟาร์มสิงโตขาว บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.เชียงใหม่ แนะนำว่า สิงโต 2 ตัวนี้ ไม่ดุร้าย และเชื่องมาก สามารถจูงเข้ากรงได้เลย จึงมีการนำกรงขนาดใหญ่ ขนาด 120 x 200 ซม. มาทดลองให้สิงโตขึ้นลงก็พบว่า สิงโตทั้ง 2 ตัว สามารถจูงเข้ากรงโดยไม่มีท่าทีขัดขืน

นายโยธิน นากกร อายุ 39 ปี เจ้าของฟาร์มสิงโตขาว บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า การพูดคุยกับเจ้าของสิงโต ได้รับการเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด แต่พอทราบว่าน้องสิงโตจะถูกเคลื่อนย้ายโดยการยิงยาสลบทำให้เกิดความกังวลว่าสิงโตจะไม่ปลอดภัย ประกอบกับเรื่องสถานที่ที่จะมีการนำสิงโตไปเก็บ จะได้รับการดูแลอย่างดีหรือไม่ ทำให้เจ้าของเกิดความกังวลต่างๆ นานา แต่พอเข้าไปแนะนำ ทำให้เจ้าตัวเริ่มมีท่าทีอ่อนลงและยอมให้เจ้าที่เคลื่อนย้าย

ส่วนสาเหตุเรื่องของการไม่ไปขึ้นทะเบียนครอบครอง ในเรื่องนี้เจ้าของได้มีการชี้แจงว่า ที่ผ่านมายังหาซื้อบ้านและสถานที่เลี้ยงสิงโตไม่ได้ จึงต้องตระเวนเปลี่ยนที่อยู่บ่อยครั้ง เคยพยายามติดต่อขอขายสิงโตต่อให้กับผู้อื่น ก็ไม่มีใครกล้าซื้อ เพราะสิงโตยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน หลังจากนี้ทางฟาร์มจะพยายามขอเจรจากับเจ้าหน้าที่ เพื่อรับน้องน้องสิงโตไปเลี้ยงดูแลที่ฟาร์ม โดยทางฟาร์มจะมีสถานที่และเลี้ยงดูอย่างดี โดยทำบันทึกข้อตกลงให้ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนในเรื่องของคดีความในการครอบครองกับเจ้าของ ก็ปล่อยให้เป็นในเรื่องของกระบวนการทางกฎหมายต่อไป