เมื่อวันที่ 26 ม.ค. นายเกรียงศักดิ์ บำเรอสงฆ์ อายุ 49 ปี ชาวบ้านพื้นที่ ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ ปรีชาศักดิ์ ศักดิ์ปรีชา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน เพื่อให้ติดตามรถบรรทุกอ้อยที่ไปเกี่ยวสายไฟฟ้ามาขวางถนน ทำให้ตัวเองถูกสายไฟเฉือนคอระหว่างขี่จยย.บนท้องถนน ทั้งยังโดนกิ๊บรัดสายไฟเจาะไปที่ลำคออีก 1 แผลด้วย ภายหลัง นายเกรียงศักดิ์ เปิดเผยว่า ตนทำงานเป็นรปภ.ในตัวเมืองบุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 21.30 น. วันที่ 25 ม.ค.67 ระหว่างขี่จักรยานยนต์กลับบ้านบนถนนสายโคกเหล็ก-บ้านขามป้อม พอมาถึงบ้านขามป้อม มีสิ่งของปะทะกับบริเวณลำคอทำให้ตนเองกระเด็นหล่นจากจยย.ทันที

“…ยอมรับว่าตอนนั้นมีความรู้สึกมึนหัว ร้อนวูบวาบ คิดว่าตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว พอมีสติพอจะนั่งได้ ก็มองเห็นจยย.อีกคันคาดว่าเป็นวัยรุ่นล้มคว่ำไปอีกราย จึงพยายามจะลุกไปช่วย แต่ตัวเองยังลุกไม่ไหว ต้องนั่งพักประมาณ 10 นาที ก็เห็นวัยรุ่นขี่จยย.ออกไป พอมีแรงลุกขึ้นได้จึงขี่จยย.กลับเช่นกัน ก่อนจะมาแจ้งความดังกล่าว…” นายเกรียงศักดิ์ กล่าว

ด้าน นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 70 ปี ชาวบ้าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า สายไฟดังกล่าวเป็นสายไฟของตัวเอง ต่อจากเสาไฟฟ้าข้ามถนนมาเข้าบ้าน ยืนยันว่าทำเสาไฟสูงแล้ว แต่รถบรรทุกอ้อยยังคงบรรทุกเกินความสูงที่กำหนด ทำให้เกิดการเกี่ยวรั้งสายไฟตกหล่นเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรไปมา โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แล้วก็ไม่เคยมีรถบรรทุกที่ก่อเหตุออกมายอมรับหรือรับผิดชอบแต่อย่างใด จึงอยากฝากไปถึงรถบรรทุกอ้อยให้บรรทุกแต่พอดี อย่าทำให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อน

ทั้งนี้ ตำรวจ สภ.บ้านด่าน กำลังไล่เวลาตอนเกิดเหตุ เพื่อเชื่อมโยงกับกล้องวงจรปิดจุดอื่นมาประกอบ หากพบรถต้องสงสัยจะทำการเรียกมาสอบสวนทันที.