เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 ก.พ. ที่สำนักงานกฎหมาย Sittra Law firm ถนนสาทรใต้ นายกังวาน รัตนาธรรม อายุ 53 ปี พร้อมครอบครัว เข้าร้องเรียนกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม กรณีถูกทหารยศนายพันใช้ปืนไล่ยิง เหตุจากความไม่พอใจที่ถูกผู้เสียหายบีบแตรรถใส่ พร้อมนำรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน งร 9714 ชลบุรี คันที่ถูกยิงซึ่งมีร่องรอยถูกกระสุน ยิงเข้าที่ประตูหลังฝั่งคนขับ 2 รู มาจอดไว้เป็นหลักฐาน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็น วันที่ 2 ม.ค. ผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.ตาดโตน จ.สกลนคร ว่า ขณะที่กำลังขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน งร 9714 ชลบุรี อยู่บนถนนเส้นทางสกลนคร-กาฬสินธุ์ บริเวณตรงข้ามศูนย์หม่อนไหม หมู่ 4 ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร ก็ถูกคนขับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน 7 กจ 4051 กรุงเทพมหานคร ที่ขับขี่ขนาบข้าง ใช้อาวุธปืนยิงใส่ที่บริเวณประตูหลังคนขับ จำนวน 2 นัด ก่อนที่คู่กรณีจะหลบหนีไป

ต่อมาตำรวจได้ตั้งจุดสกัดจับ จนสามารถควบคุมตัวไว้ได้ ทราบชื่อคนขับรถ คือ นายธรรมนันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี จากการตรวจค้นภายในรถพบ ปืนพกสั้น ยี่ห้อ บาเร็ตต้า 1 กระบอก, กระสุน 9 มม. จำนวน 8 นัดในแมกกาซีน และมี 1 นัดในรังเพลิง รวมเป็น 9 นัด และมีกระสุขอีก 34 นัด บรรจุใส่ในกระเป๋าลายพราง, ซองใส่ปืน, ปลอกกระสุนใช้แล้ว 2 ปลอก ตกอยู่ใกล้เคียงภายในรถ โดยในเบื้องต้นผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่าเป็นเจ้าของอาวุธปืน และได้ลงมือยิงใส่รถคู่กรณีจริง จำนวน 3 นัด เบื้องต้นตำรวจจึงแจ้ง 3 ข้อหา คือ พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควรฯ, ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร กับทางผู้ก่อเหตุแล้ว

ด้าน นายกังวาน กล่าวว่า ช่วงเย็นวันที่ 2 ม.ค. ที่ผ่านมา กำลังขับรถกลับบ้านที่ จ.ชลบุรี บนถนนเส้นสกลนคร-กาฬสินธุิ์ ระหว่างนั้นติดสัญญาณไฟแดงที่แยกตาดโตน แล้วมีรถเก๋งฮอนด้า ซีวีค ของคู่กรณีตามหลังมา แต่ตนเห็นว่ามีรถติดเยอะ พอมีสัญญาณไฟเขียว จึงขับตัดหน้าออกมาเพราะมองไม่เห็นคันคู่กรณี แล้วถูกผู้ก่อเหตุตามมาหลายกิโลเมตร ขณะนั้นตนพยายามไม่สนใจ เมื่อใกล้ถึงที่เกิดเหตุ จึงได้หันไปเรียกลูกชายทั้งสองคนที่นอนอยู่บริเวณเบาะหลัง ให้เตรียมลงไปทานอาหาร เป็นจังหวะเดียวกับที่รถคู่กรณีขับตามมาประกบ ก่อนที่คนขับจะเปิดกระจกฝั่งซ้ายและใช้อาวุธปืนเล็งมาทางตน เมื่อเห็นก็รีบเร่งเครื่องหนี คู่กรณีจึงยิงใส่ 3 นัด กระสุนทะลุประตูหลังฝั่งคนขับ ซึ่งเป็นที่ที่ลูกตนเพิ่งลุกขึ้นมานั่ง หัวกระสุนตกอยู่ภายในรถใต้ที่นั่งเบาะหลัง หลังจากนั้นตนจึงรีบขับรถหนี แต่คู่กรณีก็จี้ไล่ตามไม่ลดละ ก่อนจะเห็นสถานีตำรวจจึงตัดสินใจเลี้ยวเข้าไป ซึ่งระหว่างนั้นตนได้แจ้งตำรวจ 191 ให้ทราบและทางตำรวจก็มีการตั้งด่านสกัดกั้นไว้แล้ว

นายกังวาน กล่าวว่า หลังจากที่ทุกอย่างสงบ ตำรวจคุมตัวคนก่อเหตุมาที่โรงพัก คู่กรณีก็ยังนิ่งเฉย ไม่กล่าวขอโทษแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีการพูดข่มขู่ว่า “เรื่องแค่นี้ทำไมต้องโทรฯ มาแจ้งความด้วย กูพยายามจะฆ่ามึงให้ตายเลยแหละ ไม่ได้จะยิงเปล่าๆ” ก่อนตำรวจจะจับแยกออกจากกัน ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่รู้จักกันมาก่อน และท่าทางของคู่กรณีก็ไม่พบว่าอยู่ในอาการมึนเมา อีกทั้งยังพบว่า ขณะเกิดเหตุ ฝั่งคู่กรณีเองก็มีภรรยาและลูก นั่งอยู่ที่เบาะหลังด้วย แต่ยังกล้าที่จะก่อเหตุลักษณะนี้

นายกังวาน กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุ เป็นทหาร ยศนายพัน ตำแหน่งอาจารย์ประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาของคู่กรณี ได้ติดต่อขอชดเชยค่าเสียหายและ แต่เป็นในส่วนของรถที่ถูกยิง เนื่องจากพวกตนไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ก่อนจะนำกระเช้าใบเล็กมาให้ พร้อมกับตัวผู้ก่อเหตุ แต่ตนไม่รับ ซ้ำผู้ก่อเหตุยังไม่เคยพูดขอโทษสักครั้ง อีกทั้งเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นข้าราชการ จึงตัดสินใจเข้าให้ทนายษิทราช่วยเหลือ

นายษิทรา กล่าวว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ผกก.สภ.ตาดโตน โทรศัพท์แจ้งว่า ตำรวจกำลังรอผลการตรวจเขม่าดินปืนและวิถีกระสุน คาดว่าคดีจะส่งฟ้องศาลทันภายในสัปดาห์หน้า โดยตำรวจสั่งค้านประกันตัว พร้อมส่งฝากขังศาลทหาร แต่ได้ประกันตัวที่ชั้นศาลโดยวางหลักทรัพย์เป็นเงิน 200,000 บาท สำหรับผู้ก่อเหตุเป็นทหารยศพันเอก มีตำแหน่งเป็นอาจารย์ประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ส่วนภรรยา เป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสกลนคร.