เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง กรุงเทพฯ ศาลนัดฟังคำสั่งกรณีตำรวจ สน.ปทุมวัน ยื่นคำร้องขอศาลมีคำสั่งเพิกถอนประกันตัว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ (ตะวัน) และ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม (บุ้ง) จำเลยในคดีมาตรา 112 กรณีทำโพลสำรวจความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จที่บริเวณห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565 หลังพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ยื่นคำร้องโดยอ้างเหตุที่ทั้งสองเข้าร่วมชุมนุมและพ่นสีหน้ากระทรวงวัฒนธรรม เรียกร้องให้ถอด เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สว. ออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ และขณะเดียวกัน ศาลยังนัดฟังคำวินิจฉัยคดี ละเมิดอำนาจศาลของบุ้ง เนติพร เสน่ห์สังคม กรณีกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล เป็นเหตุให้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลของศาลอาญากรุงเทพใต้ ป้องกันตัวด้วยการใช้ดิ้ว หรือกระบองเหล็กยืดหด ตีเข้าที่บริเวณข้อศอกจนเกิดอาการบาดเจ็บ แพทย์ต้องทำการรักษาและเย็บ 4 เข็ม

ด้าน น.ส.กุณฑิกา นุตจรัส หรือ ทนายทราย ทนายความประจำตัวของ ทานตะวัน และเนติพร กล่าวว่า วันนี้มีสองคดีคือ คดีที่จะอ่านคำสั่งถอนประกัน และคดีละเมิดอำนาจศาล ตอนนี้รอให้ศาลตัดสิน ผลจะออกมาไม่เกินเที่ยงของวันนี้ (26 ม.ค.)

สำหรับบรรยากาศในวันนี้ มีประชาชนและเพื่อนสนิทของจำเลยทั้งสองคนเดินทางมาให้กำลังใจและได้มอบดอกกุหลาบรวมถึงผักบุ้ง เป็นกำลังใจให้จำเลยทั้งสอง ก่อนขึ้นฟังคำตัดสินด้วย

ภายหลัง น.ส.กุณฑิกา หรือ ทนายทราย เปิดเผยว่า กรณีทำโพล ศาลมีความเห็นว่าการจัดกิจกรรมแบบนี้ ไม่ทำให้เสื่อมเสียต่อสถาบัน แต่จากคำร้องของตำรวจ น.ส.เนติพร หรือบุ้ง ได้ไปพ่นสีที่ธงประจำพระองค์ อาจจะทำให้เสื่อมเสียได้ แต่ น.ส.ทานตะวัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ถอนประกัน น.ส.เนติพร หรือบุ้ง และออกหมายขัง

ส่วนคดีละเมิดอำนาจศาลนั้น มี น.ส.เนติพร หรือ บุ้ง เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และ น.ส.ธนลภย์ หรือ “หยก” เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ศาลตัดสินว่า น.ส.เนติพร หรือ บุ้ง มีความผิดจริง จำคุก 1 เดือน และออกหมายจับ หยก ประเด็นสำคัญของคดีนี้ มีการไต่สวนทั้งสองฝ่าย คือทางนำสืบพยานของผู้ถูกกล่าวหาตำรวจที่ถือกระบองในรูป และอาสาสมัครทหารพรานซึ่งเป็น รปภ. ของที่ศาลได้เบิกความว่า เกิดเหตุความวุ่นวายอย่างไร ส่วน น.ส.เนติพร ก็ได้เบิกความว่า อธิบายต่อศาล ถึงที่มาที่ไปของการเดินเข้าไปสอบถามชื่อเจ้าหน้าที่ แต่อย่างไรก็ตาม ศาลได้ใช้ดุลพินิจพิจารณาพฤติการณ์แล้ว เชื่อได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสอง มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าว่าจะมาสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในบริเวณศาล เพื่อต้องการผลอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำลายภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือของศาล

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวการกระทำของ น.ส.เนติพร ถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล ลงโทษจำคุก 1 เดือน ส่วน น.ส.หยก เยาวชนที่ปีนรั้วเข้าไป เนื่องจากยังเป็นเยาวชน ศาลเลยให้ตักเตือน แต่เนื่องจากวันนี้หยกไม่ได้มาศาล ศาลจึงออกหมายจับเพื่อให้มาฟังคำพิพากษาที่ให้ตักเตือน ทั้งนี้ น.ส.เนติพร ได้แจ้งว่าจะไม่ยื่นประกันตัวใหม่หรือขออุทธรณ์ในวันนี้.