จากกรณีเหตุ ด.ช.เก๋ง (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2/3 ก่อเหตุใช้มีดแทง ด.ช.เอ (นามสมมุติ) เพื่อนชั้น ม.2/2 บาดเจ็บสาหัสก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ. โดยเหตุเกิดในช่วงหลังเลิกแถวเคารพธงชาติ ตำรวจคาดว่า สาเหตุน่าจะมาจากการหยอกล้อเล่นกันแล้วฝ่ายผู้ก่อเหตุไม่พอใจ อีกทั้งผู้ก่อเหตุมีอาการคล้ายกับเป็นเด็กพิเศษ แต่ยังไม่มีเอกสารยืนยันตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ สน.คลองตัน ตำรวจได้พาตัว น.ส.เก๋ (นามสมมุติ) แม่ของ ด.ช.เก่ง (นามสมมุติ) มือมีดที่ก่อเหตุแทงเพื่อนนักเรียนเสียชีวิต ออกจากโรงพักเพื่อไปตรวจร่างกายตามขั้นตอนกฎหมาย ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม ด.ช.เก่ง ถึงประเด็นในโลกออนไลน์ ที่มีการแชร์แชตข้อความ ที่อ้างเป็นครูในโรงเรียน ลักษณะนักเรียนที่ก่อเหตุ เตรียมที่จะก่อเหตุตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ม.ค.) แต่ไม่มีมีด และไปขอเพื่อนในชั้นเรียนก็ไม่มีใครให้ ก่อนจะมาก่อเหตุในวันนี้ เมื่อถามว่าได้เตรียมการเอาไว้ก่อนหรือไม่ นักเรียนคนก่อเหตุไม่ตอบคำถามใด ๆ ขณะที่ น.ส.เก๋ ยกมือไหว้ ก่อนจะพูดสั้น ๆ ว่า “ขอโทษ ขอให้เสร็จกระบวนการก่อน” จากนั้นก็ขึ้นรถไป

ด้าน พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน เปิดเผยภายหลังสอบปากคำเด็กผู้ก่อเหตุ ว่า วันนี้ได้สอบปากคำเด็กและพยาน ทั้งครูที่เห็นเหตุการณ์ และแม่ผู้เสียชีวิต สำหรับสาเหตุการก่อเหตุ เกิดจากความคับแค้นใจที่ถูกผู้ตาย มักจะมาบังคับขอเงินผู้ก่อเหตุในช่วงเที่ยง ครั้งละ 20 บาท โดยมักจะก่อเหตุบนอาคารเรียน อ้างว่าจะนำไปซื้อบุหรี่ และมีการชกที่ศีรษะและใบหน้า ซึ่งโดนแบบนี้มาประมาณ 3-4 ครั้ง ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยความคับแค้นใจ จึงไปซื้อมีดพกติดตัวมาโรงเรียนในเช้าวันนี้ หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะไปสอบปากคำพยานในโรงเรียนว่าพบเห็นพฤติกรรมแบบนี้จริงหรือไม่

พ.ต.อ.วชิรากรณ์ ยืนยันว่า จากการสอบปากคำพบว่า พฤติกรรมของเยาวชน 14 ปี มีสติสัมปชัญญะเต็ม 100% สามารถตอบคำถามได้ชัดเจน นักจิตวิทยาและบุคคลที่ร่วมสอบปากคำ ลงความเห็นว่า เด็กมีสภาพจิตที่ปกติ แต่ในทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งผู้ก่อเหตุไปตรวจสุขภาพจิตอีกครั้ง ส่วนผลตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติดในร่างกาย แต่เจ้าตัวยอมรับว่า เคยดูดกัญชา 1 ครั้ง เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้มีประวัติเข้าออกสถานีตำรวจเป็นประจำ ตามที่เป็นกระแสข่าว

ขณะเดียวกัน นายโด้ (นามสมมุติ) พี่ชายของ ด.ช.เอ ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เรื่องที่มีการพาดพิงกล่าวหาว่า น้องชายตนไปไถเงินเพื่อนนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด น้องไม่เคยมีพฤติกรรมตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้าง ปกติแล้วน้องได้เงินไปเรียนวันละ 150 บาท หากมีอะไร น้องชายจะเล่าให้ฟังตลอด อยากทราบต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงมากกว่า