เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 ก.พ. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายเศรษฐา  ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการเชิญ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เข้าพบเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังการแก้ปัญหาหลายเรื่อง ทั้งปัญหายาเสพติด ของเถื่อนในพื้นที่ หลายอย่างไม่ดีเท่าที่ควร ว่า วันนี้มีโอกาสได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  พันธ์ุเพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ซึ่งระบุว่า ภาคเหนือมีการบริหารจัดการปัญหาโดยรวมทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสินค้าเถื่อน ยาเสพติด การเผาที่ส่งผลกระทบให้เกิด PM 2.5 เรื่องต่างๆ เหล่านี้พื้นที่ภาคเหนือทำได้ดีมาก เพราะมีการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมศุลกากร เมื่อเราทำได้ดีในภาคเหนือ ผู้กระทำผิดกฎหมายก็ลอบเข้ามาทาง จ.กาญจนบุรี แทน ซึ่งเยอะมาก ทั้งเรื่องจุดความร้อน ของเถื่อน ยาเสพติด ก็ต้องพูดกันตรงไปตรงมาว่า ยังทำงานไม่ดีพอ  

“ผมได้มีการพูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งท่านเองก็เข้าใจและได้ลงไปในพื้นที่เข้มงวดกวดขันในเรื่องนี้ รวมถึงก็คุยกับรอง ผบ.ตร. ซึ่งก็เข้าใจ และจะลงไปบริหารจัดการปัญหาเอง ทั้งนี้ หาก 1-2 สัปดาห์ ไม่ดีขึ้น ตนจะลงไปเอง เพราะถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญเลยก็ว่าได้ โดยเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ก็ได้ไปที่สภา พบกับสส. ก็ได้บอกว่า สส.ต้องเข้มงวดขึ้น ลงพื้นที่ให้มากขึ้น เพื่อถามไถ่ทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนว่าปัญหาอยู่ตรงไหน และให้ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นธรรมกับหน่วยงานรัฐเพื่อเข้าไปบริหารจัดการปัญหาได้ดี” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรเมื่อเราเข้มข้นจุดหนึ่ง ผู้กระทำความผิดหนีไปทำอีกจุด เจ้าหน้าที่เองต้องทำงานเชิงรุกหรือไม่ 

นายกฯ กล่าวว่า ถูกต้อง ก็ต้องทำงานเชิงรุก ตนก็ได้สั่งการทางจังหวัดไปแล้ว อย่าง จ.ระนอง ก็ต้องช่วยกันทำงานด้วย เพราะหากปิดที่ จ.กาญจนบุรี ได้อาจจะไปโผล่ที่ จ.ระนอง อีก.