โดยเฉพาะการจุดประเด็นว่าด้วย “นายกฯ สองคน” หรือ “นายกฯ สามคน” ที่ฝ่ายค้านจ้องจุดประเด็น ยิ่งเป็นการตอกย้ำการกลับมาของอดีตนายกฯ มีอิทธิพล แสดงบทบาททางการเมืองเหมือนที่ผ่านมาในอดีต

แน่นอนว่าวาทกรรมนายกฯ สองคน นายกฯ สามคน คงหนีไม่พ้น “ทักษิณ-แพทองธาร-เศรษฐา” ที่คนหลังถูกมองว่าเป็นนายกฯ เงา ของอดีตนายกฯ เพราะบารมีอดีตนายกฯ ทักษิณ ที่เคยได้รับความนิยมสูงสุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ได้ใช้ความรู้ ความสามารถในการเสนอแนะ ชี้นำพรรคเพื่อไทย โดยมีลูกสาวคนเล็กของตัวเอง “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กุมบังเหียนคุมอำนาจอยู่

ปรากฏการณ์เช่นนี้ ส่งผลต่อภาวะผู้นำรัฐบาลของ “เศรษฐา” ที่ถูกด้อยค่า ขณะที่บรรดาคนการเมืองต่างต่อสายตรงไปที่ “ประมุขบ้านจันทร์ส่องหล้า” เพราะรู้สัญญาณว่าตัวจริงที่จะตัดสินใจเดินเกมคือใคร จะกดปุ่มให้หันซ้าย หันขวา ต้องเดินตามทุกคำสั่งทุกคำขอ ไม่มีอิสระ ไม่มีบิดพลิ้ว จึงไม่ต่างอะไรกับหุ่นเชิด หรือ นายกฯ เงา ที่ถูกผลักให้มาอยู่หน้าฉาก ส่วนหลังฉากเป็นหน้าที่นายใหญ่ คอนโทรลดีลการเมืองเองทั้งหมด 

งานนี้ได้ทีฝ่ายค้านอย่างพรรค “ก้าวไกล” ใช้ดราม่าตีกินโหนกระแสสังคม กระตุกรัฐบาลให้ออกมาสร้างความเชื่อมั่นคนในประเทศว่ามีนายกฯ เพียงคนเดียว โดย “อุ๊งอิ๊ง” ออกมายืนยันว่า “ตอนที่คุณเศรษฐา เพิ่งขึ้นตำแหน่ง แล้วอยู่กับอิ๊ง ก็บอกเป็นนายกฯ 2 คน อยู่กับพ่อก็บอกเป็นนายกฯ 2 คน ให้คุณเศรษฐาทำหน้าที่ของคุณเศรษฐาไปดีหรือไม่ ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้ว อิ๊งเป็นแม่ที่ลูกเป็นไข้อยู่ เสาร์อาทิตย์นี้ก็อยู่โรงพยาบาลไม่ได้ไปไหน“

ขณะที่ “เศรษฐา” ออกอาการเมินเสียงวิจารณ์ พร้อมระบุว่า ไม่ได้โกรธ น้อยใจหรืออะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ตื่นเช้าไปทำงานทุกวันเหมือนเดิม ก็ยังทำงาน ห้ามไม่ได้ แต่ต้องยอมรับว่านี่คือสังคมไทย วาทกรรม นายกฯ หนึ่ง สอง สาม สี่ มันไม่เกี่ยว ทุกท่านอยากให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ถึงแม้จะเป็นฝ่ายตรงข้ามหรือฝ่ายเดียวกัน ตอนนี้เป็นหน้าที่ผมในฐานะผู้บริหารสูงสุด นายกฯ ต้องมีการกลั่นกรองข้อมูล ตรงไหนทำได้ก็ทำ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ภาพผู้นำทรงอิทธิพลทางการเมืองตัวจริง ให้เห็นกันตรงหน้า “พลังจันทร์ส่องหล้า” เจิดจ้าขึ้นมากลบรัศมี ยั่วกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ได้จังหวะ “ตอกลิ่ม” นายกฯ 2 คน นายกฯ 3 คน เป็นจังหวะที่ “กัปตันมือใหม่หัดขับ” ต้องออกมายืนกรานต้านกระแสแรงเสียดทานรอบด้าน ทั้งจากการเมือง และการบริหารราชการแผ่นดินที่อำนาจติดๆ ขัดๆ ลำพังนายเศรษฐา “เอาไม่อยู่” ต้องดู “เถ้าแก่ใหญ่” จะเดินหน้าอย่างไร คงต้องติดตามต่อไป.