เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่รัฐสภา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตวป่า และพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์กรณีที่ ส.ป.ก. แจ้งความเอาผิดนายชัยวัฒน์ ฐานเข้าไปถอนหมุด ส.ป.ก.4-01 ที่เขาใหญ่ ว่า เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งเป็นข้อดีว่าเขายืนยันว่าเป็นหลักของ ส.ป.ก. และเราไม่ต้องไปพิสูจน์ เพราะปกติเราจะนำหลัก ส.ป.ก. ไปให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่าหลักมาจากไหน ซื้อลอตไหน ใครเป็นคนจัดซื้อจัดจ้าง และใครเป็นผู้รับ แต่เขาได้บอกแล้วว่าเป็นหลักของเขา และเขาได้มาแจ้งความดำเนินคดีกับตน ซึ่งตนไม่ได้กังวล เพราะจะได้มั่นใจว่าเป็นหลักของเขาจริงๆ ที่มี 2 หลัก ที่ชี้แจงไปเมื่อวานนี้ (5 มี.ค.) ฟังดูแล้วทำให้ไม่มั่นใจว่า หลักส.ป.ก. สามารถถือได้ด้วยหรือ ใส่ถุงหิ้วไปที่ไหน อยากปักก็ปักใช่หรือไม่ ตนอยากถามว่าแผนงานของ ส.ป.ก. ในการออกไปรังวัดหรือการปักหลัก ต้องใช้แผนงาน แผนเงิน ในการขนหลักไปปักให้กับชุมชน และต้องมีช่างรังวัดไปปัก รวมถึงต้องมีแผนการดำเนินงานส่งผลงานด้วย ท่านไม่ได้จ้างคนหรือมีแผนงานไป หรือให้คนหิ้วถุง ส.ป.ก. ไปปักตามใจชอบใช่หรือไม่ ซึ่งในระบบราชการไม่สามารถทำได้ ดังนั้น จึงต้องให้ความชัดเจนกับสังคม

เมื่อถามว่ากรมอุทยานฯ และกรมแผนที่ทหาร ยังถกเถียงถึงเส้นแผนที่ใช่หรือไม่ นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ใช่ โดยในเรื่องแผนที่ กรมแผนที่ทหาร พยายามจะโชว์ร่องรอยเพื่อให้เห็นแผนที่ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2496 ซึ่งเราได้อธิบายตามแผนที่ที่เป็นตารางล็อกๆ คือสวนป่าไม่ใช่ที่ให้ชาวบ้านเข้าไปทำกิน ตรงนี้เคลียร์และจบไปแล้ว ส่วนแนวเขตที่อ้างอิงหมุดเขายอมรับว่าเขาไม่ได้ยึดหมุด แต่ยึดจากฟิลบุ๊กข้างเคียงว่ามีร่องห้วยยาวหลายสิบกิโลเมตร โดยสุดท้ายจบที่ตน ได้ร้องขอกับคณะกรรมการเพื่อขอให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ให้หน่วยงานไม่ว่าจะเป็น กรมอุทยานฯ ส.ป.ก. กรมแผนที่ทหาร กรมพัฒนาที่ดิน ฝ่ายปกครอง ลงไปรังวัดพร้อมกัน ในระบบที่เชื่อถือและยอมรับกันได้

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ฉะนั้นแผนที่ที่เดินหน้าต่อจะไม่คุยเรื่องแผนที่ทหารแล้ว ถ้าตนยอมรับได้ ก็จะไม่มีไปถึงศาลปกครองหรือฟ้องศาลต่อไป ถ้าลงในแผนที่และตนยอมรับ ก็จบ ซึ่งวันนี้ได้เห็นความคืบหน้าและเห็นแววแล้วว่าจะจบแบบไหน อย่างไงก็ตาม การลงพื้นที่ในสัปดาห์หน้า ตนจะลงพื้นที่ด้วยตัวเอง รวมถึงมีฝ่ายปกครองร่วมลงพื้นที่ด้วย จะได้มีพยานยืนยันว่าแนวเส้นเดิน เส้นทางที่ถูกต้องเป็นเส้นไหน แบบไหนที่ยอมรับและไม่ยอมรับ โดยต้องยึดจากวิทยาศาสตร์ คือยึดจากหมุดแผนที่กรมทหาร โยงมาในแนวของพระราชกฤษฎีกา ต้องมีเส้นสมมุติ 1 เส้น และจะจบเส้นใดเส้นหนึ่ง ไม่ใช่เดินทางฟิลบุ๊กแล้วยึดร่องเขา ร่องห้วยมา ฉะนั้น การลงพื้นที่ครั้งหน้าจะเป็นการลงพื้นที่ร่วมกันและเป็นข้อตกลงการทำงานร่วมกัน ไม่มีความขัดแย้ง ทุกคนหวังดีต่อประเทศชาติ เชื่อว่าไปด้วยกันได้แน่นอน

เมื่อถามว่า การที่นายกรัฐมนตรีระบุว่า ให้ยึดเส้นแนวเขตแผนที่ทหาร จะทำให้แนวเขตของแผนที่ทหารมีสถานะเหนือกว่าแผนที่อื่นหรือไม่ นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า นายกฯ ยังไม่ได้รับรองว่าจะนำเส้นทหารมาใช้ในกรณีนี้ แต่วันนี้ ส.ป.ก. กลับนำเส้นทหารมาฟ้อง ว่าอยู่ในเขต ส.ป.ก. โดยหลักการต้องคุยกัน ส่วนตัวไม่ได้โกรธ ถือว่าเป็นไปตามที่เราคาดหมายไว้อยู่แล้ว และเส้นดังกล่าวก็ต้องมาตกลงกันครั้งต่อไป ทั้งกรมแผนที่ทหาร และอุทยานฯ และหลายๆ ส่วน โดยที่มีช่างรังวัดอยู่ด้วย และตกลงกันว่าจะเริ่มอย่างไรให้ถูกต้องที่สุด

เมื่อถามว่า จะคุยกับ ส.ป.ก. อย่างไรให้จบ เพราะทุกครั้งที่เชิญมา ทาง ส.ป.ก. ไม่มา นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า เสียใจที่ 2 ครั้ง เชิญมา ทาง ส.ป.ก. ไม่มีผู้แทนหลักๆ มา รวมถึงวันนี้ก็ไม่มีใครมาสักคนตอบ ซึ่งอ้างว่าเป็นวันสถาปนา ส.ป.ก. แต่อย่างไรก็ต้องมีความรับผิดชอบ