เมื่อเวลา 11.20 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเดินทางถึงพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัลกุรอาน ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส โดยมีประชาชนและข้าราชการรอให้การต้อนรับ พร้อมทำการแสดงเครื่องดนตรีกรือโต๊ะต้อนรับด้วย ก่อนที่นายกฯ จะเดินเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์โอทอป และซื้อผลิตภัณฑ์จากต้นกระจูดของชาวบ้านชุมชน ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยเป็นกระเป๋าจักสาน 3 ใบ  ซึ่งนายกฯ จะนำกระเป๋าทั้ง 3 ใบหิ้วขึ้นเครื่องไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศฝรั่งเศสด้วย เพื่อที่จะให้ชาวฝรั่งเศสและดีไซเนอร์เห็นผลิตภัณฑ์ของไทย  ขณะเดียวกันนายกฯ ยังได้ชมการสาธิตทาสีบนเรือกอและจำลอง ก่อนจะร่วมทดลองใช้พู่กันทาสีเหลืองลงบนเรือกอและจำลองด้วย

นอกจากนี้ นายกฯ ยังชมการแสดงยุทธศิลป์ถิ่นมลายู  ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้อันเก่าแก่ที่แพร่หลายในกลุ่มชาวมุสลิม  ซึ่งมีชื่อเรียกว่า ปันจักสีลัต หรือสีละ ถือเป็นศิลปะการต่อสู้ของคนเชื้อสายมลายู ทั้งนี้ นายกฯ ยังได้แวะบูธชิมกาแฟอาราบิก้ายี่งอผสมน้ำผึ้งชันโรง พร้อมกล่าวว่า “อร่อย และให้รัฐมนตรีได้ร่วมชิมด้วย”

ต่อมานายกฯ ได้พบกับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส​ อ่านดุอาอ์ขอพรให้นายกฯ มีกำลังใจ​ สุขภาพแข็งแรง​ ทุกสิ่งที่นายกฯ ​ตั้งใจ​ให้เกิดผลสัมฤทธิ์​ และสันติสุขจงเกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้​  ขณะเดียวกันยังขอให้นายกฯ ให้ความสำคัญกับศาสนาอิสลาม ทั้งการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนสอนศาสนา​ และขอให้นายกฯ ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติดด้วย

ด้านนายกฯ กล่าวขอบคุณ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาสที่ให้พร พร้อมระบุว่าเนื่องในโอกาสที่จะเข้าในช่วงเทศกาลเดือนรอมฎอน ถือเป็นเทศกาลแห่งความอดทน ตนจึงขออวยพรให้ทุกท่านประสบแต่ความสุข ซึ่งรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับเรื่องของความเสมอภาค ความเท่าเทียมและจะทำให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีแต่ความสงบความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป ทั้งนี้ ภารกิจของตนที่ท่านบอกว่ายิ่งใหญ่ แต่ก็ไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าความปรารถนาของพวกท่านที่จะเห็น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสงบสันติ ซึ่งถือเป็นภารกิจอันใหญ่ที่ต้องร่วมกันทำ​ ซึ่งรัฐบาลยินดีเป็นส่วนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นส่วนเล็กหรือส่วนน้อย โดยขอให้ทราบถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาล ผู้นำท้องถิ่นเรายินดีที่จะรับฟังความคิดเห็น เพื่อทำงานร่วมกัน

ก่อนที่นายกฯ จะเดินพบปะกับนักเรียน และถ่ายรูปเซลฟี่อย่างเป็นกันเอง​  และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์คัมภีร์อัลกุรอาน  ก่อน​ชมการโชว์เขียนชื่อ และนามสกุลนายกฯ เป็นภาษาอาหรับ และภาษาตุรกี ด้วยปากกาปากแบนโบราณบนกระดาษ จากนั้นผู้เขียนได้มอบกรอบรูปที่เขียนชื่อและนามสกุลนายกฯ ด้วยภาษาอาหรับบนลวดลายศิลปะ และมอบกรอบรูปที่ปักชื่อนายกฯ บนผ้า มอบให้นายกฯ เป็นที่ระลึกด้วย  ก่อนที่นายกฯ จะชมการซ่อมคัมภีร์อัลกุรอาน​ด้วยความสนใจ

จากนั้นนายกฯ มอบนโยบายกับทางจังหวัดว่า 3 วันแล้วที่เราลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนคงไม่ต้องบอกว่าพวกเราและทีมงานหลายๆ ท่านที่ไม่เคยมา​ และได้รับการต้อนรับที่ประทับใจอย่างสูงสุด ดูได้จากสายตาของประชาชนทุกคนที่มาต้อนรับ เข้าใจได้ถึงการมองเห็นโอกาสที่รัฐบาลจะนำมาให้​ ส่วนเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต​ ทั้งความไม่สงบ​ในระยะยาวก็จะมีการแก้ไขปัญหาในรัฐบาลนี้​ ส่วนการพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคง การใช้สนามบินร่วมกันที่จังหวัดปัตตานีจะมีการพูดคุยกันว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง​ หลายๆ เรื่องตนคิดว่ารัฐบาลนี้เข้าใจถึงปัญหานี้ และการมาพบปะกันตนถือว่า 3 วันนี้เป็น 3 วันที่มีคุณค่า และรัฐบาลก็จะมาเยี่ยมเยียนอีกในปีหน้านี้เพื่อมาดูความคืบหน้าของโครงการต่างๆ ที่เราได้จัดสรรลงมา หากมีเวลาก็จะอยู่ให้นานกว่านี้​ 

นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า ขอขอบคุณ​ ฝ่ายความมั่นคงที่ดูแลเป็นอย่างดี​ เราไม่พูดถึงความไม่มั่นคง​ เราไม่พูดถึงความไม่สงบ​ แต่อยากพูดถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจ​ เราไม่เห็นเรื่องอาวุธหนักที่จะต้องเอามาคุ้มครอง ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่เราจะได้เริ่มต้น ขอขอบคุณฝ่ายความมั่นคงและพื้นที่ที่กรุณาทำได้อย่างเหมาะสมและดีมาก พร้อมกับขอบคุณสส.ที่อยู่ในที่นี้และ 2-3 วันที่ผ่านมากับการต้อนรับที่อบอุ่น เข้าใจถึงปัญหาที่ชัดเจน ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องพยายามทำให้ได้ ภูมิภาคนี้จะต้องเกิดทั้งความสันติภาพและสันติสุข

ต่อมานายกฯ ออกเดินทางโดยเครื่องบินกองทัพบก บ.ล. 295 จากท่าอากาศยานนราธิวาส ไปยังท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กลับกรุงเทพฯ.