เมื่อวันที่ 2 มี.ค. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า กรมการปกครองมอบหมายให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง พร้อมด้วยสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน ร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดปทุมธานี สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1 นำกำลังเข้าจับกุม “ร้านนาวาติดลม รังสิต” ที่ลักลอบเปิดให้บริการในลักษณะสถานบริการคาราโอเกะเถื่อน ย่านรังสิตคลองสอง ลักลอบเปิดเป็นคาราโอเกะให้บริการลูกค้า แอบแฝงการขายยาเสพติดอย่างครบวงจร

นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มุ่งจัดระเบียบสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีมีสถานบริการผิดกฎหมายเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต มีการจำหน่ายยาเสพติดภายในสถานบริการ และจงใจปล่อยปละละเลยให้มีการใช้ยาเสพติดภายในสถานบริการ ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มีละเว้น ซึ่งจุดเริ่มต้นของปฏิบัติการนี้ เกิดจากการตรวจสอบข้อมูลเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการจัดระเบียบสังคมของศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย พบว่า ในพื้นที่อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี มีสถานบริการที่เป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด และก่อให้เกิดภัยสังคมในรูปแบบอื่นตามมา ประชาชนอยู่อย่างไม่สงบสุข

“กรมการปกครองจึงส่งสายลับพนักงานฝ่ายปกครองเข้าทำการสืบสวนข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนดังกล่าว พบว่า จุดสำคัญของนักเที่ยวในย่านนั้น คือ 1.ร้านนาวาติดลม รังสิต ซึ่งเป็นร้านจำหน่าย สุรา อาหาร และเครื่องดื่ม มีการแสดงดนตรีเพื่อการบันเทิง และยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้พนักงานนั่งกับลูกค้า อันเป็นการตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และที่สำคัญเมื่อร้านปิดให้บริการในทุกคืนแล้ว จะมีพนักงานคอยแนะนำลูกค้าให้ไปใช้บริการต่อจุดที่ 2. เป็นห้องลับคาราโอเกะ แบบ VIP ซึ่งแฝงตัวอยู่ในชั้น 2 ของอาคาร อาร์ บี ดี เพลส ที่อยู่ในซอยฝั่งตรงข้ามร้านนาวาติดลมฯ และยังสามารถติดต่อขอซื้อยาเสพติดได้จากพนักงานของร้านนาวาติดลมฯ ที่ตามมาให้บริการลูกค้าต่อ และยังพบว่า “ผู้จัดการเป็นคนเดียวกันกับผู้จัดการของร้านนาวาติดลมฯ” การชำระเงินก็แสนง่ายด้วยการโอนเงินซื้อยาเสพติดเข้าบัญชีของพนักงานหรือของผู้จัดการร้านได้ และในบริเวณซอยรังสิต-นครนายก 32 ยังมีห้องคาราโอเกะขนาดใหญ่ซึ่งสายลับพนักงานฝ่ายปกครองได้พบเป็นจุดที่ 3. ชื่อ COCO CLUB อยู่ติดกับอาคาร อาร์ บี ดี เพลส พนักงานแจ้งกับทีมสายลับว่า เป็นห้องที่ไว้ต้อนรับนักเที่ยวเพื่อปาร์ตี้เสพยาเสพติด ซึ่งต้องมีลูกค้าจำนวนมากจึงจะสามารถเข้าใช้ได้ และเป็นแหล่งจำหน่ายยาเสพติดหลากหลายประเภท มีทั้ง ยาอี ยาเค แฮปปี้วอเตอร์ และน้ำบลู ยาเสพติดรูปแบบใหม่ เป็นสถานที่ยอดฮิตในหมู่วัยรุ่นย่านรังสิต สิ่งที่น่าตกใจไปกว่านั้น คือ ภายในร้าน พนักงานสามารถติดต่อขอซื้อยาเสพติดมาให้บริการลูกค้า พร้อมอุปกรณ์การเสพอย่างครบครัน พนักงานบริการเสพยาเสพติดไปพร้อมกับลูกค้าเพื่อไม่ให้ลูกค้าเหงา” นายอรรษิษฐ์ กล่าว

นายอรรษิษฐ์ กล่าวต่ออีกว่า กระทั่งในเวลาประมาณ 02.50 น. เมื่อสายลับพนักงานฝ่ายปกครองยืนยันพบการกระทำความผิดแน่ชัด จึงได้แจ้งชุดจับกุมเข้าทำการตรวจค้นห้องลับคาราโอเกะในเครือเดียวกับร้านนาวาติดลมฯ โดยเจ้าพนักงานเข้าตรวจค้นห้องคาราโอเกะทุกห้อง พบยาเสพติดในตัวพนักงานของร้าน และหลักฐานการโอนเงินค่ายาเสพติด พร้อมทั้งหลักฐานการติดต่อซื้อยาเสพจากเอเย่นต์ในกลุ่มไลน์ นอกจากนี้ยังพบยาเสพติดในรถยนต์ของผู้มาใช้บริการบางคนด้วย โดยภายหลังการเข้าตรวจค้น จับกุม เจ้าพนักงาน ป.ป.ส.ภาค 1 ได้ตรวจปัสสาวะนักเที่ยวและพนักงานของคาราโอเกะทุกห้อง พบปัสสาวะมีสารเสพติด จำนวน 5 ราย จึงได้นำตัวเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายยาเสพติดต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สอบถามพนักงาน ยอมรับว่า ได้ติดต่อเอเย่นต์เพื่อนำยามาบริการลูกค้าจริง

นายอรรษิษฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับคาราโอเกะที่ลับลอบเปิดเป็นสถานบริการ และปล่อยปละละเลยให้มีการใช้ยาเสพติดในสถานบริการ ซึ่งชุดจับกุม ได้จับกุมผู้แสดงตัวเป็นผู้จัดการร้าน/เจ้าของร้าน ในข้อหาตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และจับกุมพนักงานบริการของร้านในข้อหาจำหน่ายยาเสพติด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เตรียมพิจารณาสั่งปิดสถานที่มีกำหนด 5 ปี ทั้งนี้ ในส่วนของความผิดกรณียาเสพติด เจ้าพนักงานชุดจับกุมจะได้ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 1 ขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าไปถึงผู้ใดบ้าง เพื่อดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินตามมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดต่อไป