เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ตลาดบิ๊กซัน ต.หนองวัวซอ  อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล นำคณะพรรคก้าวไกล เปิดเวทีพรรคก้าวไกลพบเครือข่ายประชาชนที่ดินภาคอีสาน เพื่อติดตามปัญหาข้อมูลเกี่ยวกับโครงการหนองวัวซอโมเดล และภาพรวมของสถานการณ์ปัญหาที่ดินในพื้นที่ โดยมีผู้ร่วมงานกว่า 500 คน

ทั้งนี้ นายพิธา กล่าวตอนหนึ่งว่า จะมีการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในปี 2568 ซึ่งมีความสำคัญ เพราะเหมือนเป็นจิ๊กซอว์สุดท้าย ตามวิสัยทัศน์ของพรรคก้าวไกล ที่ต้องการเห็น จ.อุดรธานี มีความเท่าเทียมกัน และเท่าทันโลก ทั้งนี้ เรื่องสิทธิในที่ดินทำกิน แต่ประเทศไทยเป็นที่ดินของราชการจำนวนมาก ประมาณ 320 ล้านไร่ ซึ่ง 60 เปอร์เซ็นต์เป็นที่ดินของรัฐบาล และ 40 เปอร์เซ็นต์ เป็นที่ดินของประชาชน ขณะที่รัฐบาลให้สิทธิในการเช่าแค่ 3 ปี อย่างนี้ไม่ถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ ซึ่งวิธีคิดของตนไม่ใช่บอกว่าให้ประชาชนเป็นที่อยู่อาศัย คอยจ่ายค่าเช่าให้กับรัฐบาล ไม่ใช่แบบนั้น แต่ต้องเป็นสิทธิในการบริหารอนาคตของตัวเอง สิทธิในการมอบที่ดินให้กับลูกหลาน การมีกรรมสิทธิ์ในการจะเอาที่ดินเข้าธนาคาร นำเงินออกมาแก้ปัญหา ช่วยทำให้ จ.อุดรธานี น่าอยู่

นายพิธา กล่าวว่า สุดท้ายมีประชาชนถามว่า พรรคก้าวไกลจะเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้เป็นกระสุนตกเลยหรือไม่ ซึ่งตนก็บอกว่าวิกฤติของพรรคก้าวไกลไม่ยิ่งใหญ่เท่าวิกฤติของประชาชน ตนไม่ได้พูดเล่นและไม่ได้พูดเอาคะแนนเสียง แต่ตนศึกษามาแล้วว่า ครั้งที่แล้ว ชาวอุดรธานีไปเลือกตั้งน้อยมาก เพราะแรงงานส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ จึงไม่ได้เลือกตั้ง ซึ่งเป็นปัญหามาจากปัญหาหนี้สิน ปัญหาความแห้งแล้ง ดังนั้น วิกฤติของประชาชนยิ่งใหญ่กว่าวิธีของพรรคก้าวไกล

“ถ้าเขาอยากจะยุติชีวิตทางการเมืองของผม ทำเลย ผมไม่มีอะไรค้างคาใจอีกแล้ว เราคือพรรคที่เอาชนะเพราะการทำงานเพื่อประชาชน แล้วผมก็วางแผนในการบริหารองค์กรไว้เยอะแยะ ยังมีคนเก่งอีก 20 คน ข้างหลัง ยังมีคนเก่งอีก รออยู่ข้างหลัง” นายพิธา กล่าว