สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงซานา ประเทศเยเมน เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ว่ารัฐบาลเยเมนที่เมืองเอเดน ซึ่งได้รับการรับรองจากสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า เรือบรรทุกปุ๋ยเคมี “รูบี้มาร์” ซึ่งติดธงเบลีซ และบริหารโดยบริษัทบลูฟลีต ในเลบานอน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก จากการโจมตีโดยขีปนาวุธของกลุ่มฮูตี เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา จมลงสู่ก้นทะเลในอ่าวเอเดนแล้ว


ด้านบริษัทบลูฟลีตปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ โดยกล่าวว่า ไม่มีทีมงานอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ ในวันเกิดเหตุ เรือรูบี้มาร์อยู่ระหว่างเดินทางจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ไปยังบัลแกเรีย แต่ถูกกลุ่มฮูตียิงขีปนาวุธใส่ ส่งผลให้น้ำทะเลไหลทะลักเข้ามาภายในห้องเครื่องยนต์ และมีน้ำมันรั่วไหลออกไปเป็นระยะทางไกลเกือบ 30 กิโลเมตร ต่อมา ลูกเรือทั้งหมดได้รับความช่วยเหลือ


ก่อนหน้านั้น กองทัพสหรัฐและบริษัทแอมบรีย์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการความเสี่ยงของการเดินเรือระหว่างประเทศ กล่าวว่า เรือรูบี้มาร์เป็นของบริษัทแห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักร แต่ต่อมาบลูฟลีตออกมายืนยัน ว่าเรือเป็นของบริษัทตัวเอง


การอับปางของเรือรูบี้มาร์ ถือเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่กลุ่มฮูตีเปิดฉากโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง หลังสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ปะทุในฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566

ขณะที่ตอนนี้ มีความหวั่นเกรงมากขึ้นจากหลายฝ่ายว่า ทั้งน้ำมันที่รั่วไหล และปุ๋ยเคมีราว 41,000 ตันบนเรือ อาจก่อให้เกิด “หายนะครั้งใหญ่” กับระบบนิเวศในทะเลแดง แต่กลุ่มฮูตียังคงไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้.

เครดิตภาพ : AFP