เมื่อเวลา 14.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ในระยะหลังที่พบว่ามีประชาชนถือป้าย ฮักทักษิณ ควบคู่กับการทวงถามเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ซึ่งถึงเวลาแล้วหรือไม่ ที่จะเชิญนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นที่ปรึกษา ว่า เรื่องป้ายฮักคุณทักษิณ จริงๆ แล้วตนได้เรียนไปในหลายเวที ไม่ปฏิเสธเลย แล้วเข้าใจว่าท่านเป็นนายกฯ ที่ได้รับความนิยมชมชอบสูงสุดคนหนึ่งในประเทศไทย ฉะนั้นเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนรักท่าน จริงๆ แล้วมีการรักใคร ตนถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ประเทศชาติมีความรักมันก็ดีอยู่แล้ว ส่วนการจะเชิญท่านมาหรือไม่นั้น ท่านยังไม่ได้แสดงเจตจำนงว่าจะเป็นที่ปรึกษาหรือเปล่าเลย อย่างสัปดาห์ที่แล้วตนได้เข้าไปหาท่าน ท่านก็ยังโฟกัสเรื่องการรักษาตัวเองให้ดี  ท่านจากประเทศไทยมา 17-18 ปีใช่หรือไม่ ตนคิดว่าท่านอยากจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวหรือพี่น้องพรรคพวกเพื่อนฝูงที่สนิทกัน และดูแลรักษาตัวเองให้ดี หลังจากนั้นแล้วค่อยว่ากันดีกว่า

เมื่อถามว่า เรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท แม้นายกฯ เคยตอบคำถามบ่อยในเรื่องของกรอบเวลา แต่ประชาชนยังอยากฟังประชาชนพูดบ่อยๆ ถึงความคืบหน้า นายเศรษฐา กล่าวว่า เข้าใจ เพราะทุกคนก็มีความประสงค์ และอันนี้เป็นจุดหนึ่งที่สะท้อน ตนได้ยินแล้ว แต่หน่วยงานอื่นก็อยากให้ได้ยินด้วยเหมือนกัน ซึ่งตนเองกำลังคอยข้อมูลอยู่ และได้มีการตั้งคณะกรรมการไปเรียบร้อยแล้ว กำลังคอยข้อมูลจากหน่วยงานที่เราสอบถามไป ส่วนรายละเอียดนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง จะเป็นผู้แถลงเอง 

เมื่อถามต่อว่า คิดว่าผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะได้ยินเสียงประชาชนตะโกนตรงนี้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบ หากอยากทราบรายละเอียดอะไรมากกว่านี้ เดี๋ยวนายจุลพันธ์จะเป็นคนแถลง ซึ่งคนตระหนักดีถึงความต้องการอยู่แล้ว 

เมื่อถามถึงกรณี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการ ธปท. ออกมาระบุว่าการที่นายกฯ เรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ย จะมีผลทำให้เงินทุนไหลออก นายเศรษฐา กล่าวว่า มันก็มีทั้งบวกและลบหลายๆ อย่าง ท่านเองเป็นอดีตผู้ว่าการ ธปท.มา และเป็นอดีตรองนายกฯ ที่ดูแลเศรษฐกิจมา ท่านพูดอะไรตนก็รับฟัง.